พบชีวิต

เพราะเราดำรงอยู่ ท่านทั้งหลายก็จะดำรงอยู่ด้วย - ยอห์น 14:19

 

คำพูดของพ่อกรีดลึกลงในใจของราวี “แกมันไม่ได้เรื่องแกทำให้ครอบครัวต้องขายหน้า” เทียบกับพี่น้องที่มีพรสวรรค์ ราวีถูกมองว่าทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย เขาพยายามเอาดีด้านกีฬา และทำได้ดี แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่เอาไหน

 

เขาสงสัยว่า ผมจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมไม่ได้เรื่องจริงๆหรือ ผมจะหนีจากชีวิตอย่างไม่เจ็บปวดได้ไหม ความคิดเหล่านี้หลอกหลอนเขา แต่เขาไม่เคยบอกใครเลยเพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำกันในวัฒนธรรมของเขา เขาถูกสอนให้ “เก็บเรื่องปวดใจไว้กับตัว แม้โลกจะพังก็พยุงเอาไว้”

ราวีทนทุกข์เพียงลำพัง ต่อมาเมื่อเขาพักอยู่ในโรงพยาบาลหลังจากพยายามฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ มีผู้มาเยี่ยมคนหนึ่งนำพระคัมภีร์ที่เปิดไปที่ยอห์น 14 มาให้ แม่ของเขาอ่านพระดำรัสของพระเยซูให้ราวีฟังดังนี้ “เราดำรงอยู่ ท่านทั้งหลายก็จะดำรงอยู่ด้วย” นี่อาจเป็นความหวังเดียวของผมเขาคิด การใช้ชีวิตแบบใหม่ ชีวิตตามที่พระองค์ผู้ประพันธ์ชีวิตทรงกำหนดไว้ เขาจึงอธิษฐานว่า “พระเยซูเจ้าข้า ถ้าพระองค์ทรงเป็นผู้ให้ชีวิตดังเช่นที่ชีวิตควรจะเป็น ผมต้องการชีวิตนั้น”

ชีวิตบางช่วงก็ดูสิ้นหวัง แต่เช่นเดียวกับราวี เราพบความหวังในพระเยซูผู้ทรง “เป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต” ได้ พระเจ้าทรงปรารถนาจะประทานชีวิตอันบริบูรณ์และพึงพอใจให้กับเรา - PFC

มีเพียงพระเยซูเท่านั้นที่ประทานชีวิตใหม่ให้เราได้

ถ้อยคำสำหรับผู้เหน็ดเหนื่อย

พระเจ้าได้ประทานให้ข้าพเจ้ามีลิ้นของบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงสอน เพื่อข้าพเจ้าจะได้รู้ที่จะค้ำชูผู้ที่เหน็ดเหนื่อยไว้ด้วยถ้อยคำ - อิสยาห์ 50:4

 

ไม่กี่วันหลังจากพ่อของเขาเสียชีวิต ซี. เอส. ลูอิสวัย 30 ปีได้รับจดหมายจากสตรีที่เคยดูแลแม่ของเขาในช่วงที่เธอไม่สบายและเสียชีวิตไปก่อนเมื่อยี่สิบกว่าปี เธอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียของเขาและถามว่าเขาจำเธอได้หรือไม่ ลูอิสตอบว่า “คุณพยาบาลเดวิสันที่รัก จำคุณได้หรือเปล่าน่ะหรือ จำได้สิครับ”

ลูอิสจำได้ว่าในช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้น การมีเธออยู่ด้วยมีความหมายมากสำหรับเขา พ่อและพี่ชายเขาขอบคุณสำหรับคำแสดงความเสียใจและกล่าวว่า “การได้หวนนึกถึงวันคืนเก่าๆ เป็นความรู้สึกที่อบอุ่นใจจริงๆ ช่วงเวลาซึ่งคุณอยู่กับแม่ของผมดูยาวนานมากสำหรับเด็กคนหนึ่งและคุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา”

เมื่อเราปล้ำสู้กับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิต ถ้อยคำหนุนใจจากคนอื่นสามารถยกชูจิตวิญญาณและนำให้เราจับจ้องไปที่พระเจ้าได้ ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์บันทึกว่า “พระเจ้าได้ประทานให้ข้าพเจ้ามีลิ้นของบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงสอน เพื่อข้าพเจ้าจะได้รู้ที่จะค้ำชูผู้ที่เหน็ดเหนื่อยไว้ด้วยถ้อยคำ” และเมื่อเรามองไปยังพระเจ้า พระองค์ประทานถ้อยคำแห่งความหวังและความสว่างในยามมืดมิด - DCM

ถ้อยคำที่อ่อนโยน ยกชูใจที่โศกเศร้าได้

ความชื่นบานยามเช้า

การร้องไห้อาจจะอ้อยอิ่งอยู่สักคืนหนึ่ง แต่ความชื่นบานจะมาเวลาเช้า - สดุดี 30:5

 

กระจกรถของแองจีเป็นฝ้า ทำให้เธอมองไม่เห็น จึงตัดหน้ารถบรรทุกโดยไม่เจตนา อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้สมองของเธอเสียหาย จนเธอพูดและดูแลตัวเองไม่ได้

หลายปีผ่านมา ผมรู้สึกประหลาดใจที่พ่อแม่ของเธอทำใจได้ ผมจึงถามพวกเขาว่า “คุณทำอย่างไรจึงผ่านพ้นประสบการณ์นี้มาได้?” พ่อของเธอตอบอย่างไตร่ตรองว่า “ผมตอบตามตรงว่า หนทางเดียวที่เราสามารถทำอย่างนั้นได้คือด้วยการติดสนิทกับพระเจ้า พระองค์ประทานกำลังที่จำเป็น เพื่อช่วยให้เราผ่านพ้นมาได้”

แม่ของแองจีเห็นด้วยและเสริมว่า ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุพวกเขาโศกเศร้ามากเสียจนสงสัยว่าจะกลับมาชื่นชมยินดีได้อีกหรือไม่ เมื่อทั้งคู่พึ่งพาพระเจ้า ก็ได้สัมผัสประสบการณ์ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมอย่างมิได้คาดหมายและมากมายนับไม่ถ้วน เพื่อดูแลแองจีและสมาชิกในครอบครัวใหญ่ทั้งทางร่างกายและจิตใจ แม้แองจีจะไม่สามารถพูดได้แล้ว แต่เธอก็ตอบสนองพ่อแม่ด้วยรอยยิ้มกว้าง ซึ่งนำความปีติยินดีมาให้พ่อแม่ของเธอก็ยังคงชอบข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “การร้องไห้อาจจะอ้อยอิ่งอยู่สักคืนหนึ่ง แต่ความชื่นบานจะมาเวลาเช้า”

คุณเคยประสบความเศร้าโศกที่หนักหนาสาหัสหรือไม่? ยังมีพระสัญญาว่าจะทรงประทานความชื่นชมยินดีในอนาคตให้ท่ามกลางหยาดน้ำตา เมื่อคุณพึ่งพาองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงรักเรา - HDF

จงมอบความทุกข์โศกของคุณไว้กับพระเยซูผู้ทรงเป็น “องค์ผู้ทรงรับความเจ็บปวด”

การลาจากที่ลำบากใจ

พระเจ้าในที่ประทับบริสุทธิ์ของพระองค์ ทรงเป็นพระบิดาของคนกำพร้า

และทรงเป็นผู้ป้องกันหญิงม้าย - สดุดี 68:5

 

เมื่อลูกชายคนสุดท้องของเราเข้าสู่กองทัพ เรารู้ดีว่ามีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า เรารู้ว่า เขาอาจต้องเผชิญอันตรายและถูกทดสอบทางร่างกาย อารมณ์ และจิตวิญญาณ เรายังรู้อีกว่าบางทีเขาอาจจะไม่ได้กลับมาที่บ้านหลังนี้อีกต่อไป หลายเดือนก่อนวันเดินทาง ผมและภรรยาได้ทำใจเราให้แข็งแกร่งรับความท้าทายเหล่านั้น

แล้ววันนั้นก็มาถึง เมื่อมาร์คต้องไปรายงานตัว เรากอดเขาและกล่าวคำอำลา แล้วเขาก็เดินจากผมไป ทิ้งให้ผมเผชิญกับช่วงเวลาที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว ความเจ็บปวดของการอำลาที่ยากลำบากนั้นเกินจะรับไหว ผมสะเทือนใจมากผมจำไม่ได้ว่ามีวันไหนอีกที่ผมร้องห่มร้องไห้หนักมากเท่ากับวันนั้นเป็นการอำลาที่ยากลำบาก ความรู้สึกสูญเสียที่เกิดขึ้น ตัดเฉือนหัวใจของผม

ในขณะนั้นเอง ผมขอบพระคุณที่มีพระบิดาในสวรรค์ผู้ทรงทราบว่าการแยกจากบุตรชายที่รักนั้นเป็นอย่างไร ผมขอบพระคุณที่มีพระเจ้า ผู้ซึ่งได้รับการอธิบายว่า “ทรงเป็นพระบิดาของคนกำพร้า และทรงเป็นผู้ป้องกันหญิงม่าย” ผมเชื่อว่าหากพระองค์ทรงห่วงใยลูกกำพร้าและหญิงม่ายในยามที่พวกเขาว้าเหว่ พระองค์ก็ทรงห่วงใยผม และเล้าโลมใจผม แม้ในขณะที่ผมต้องเผชิญกับการดิ้นรนต่อสู้ที่มาพร้อมกับการลาจากที่ลำบากใจ - BC

ความว้าเหว่เข้ามา เมื่อเราลืมไปว่ามีพระองค์ที่ยังคงอยู่กับเราเสมอ

พบความหวังได้ที่ไหน

และความหวังใจมิได้ทำให้เกิดความเสียใจเพราะผิดหวัง เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้า

ได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเราโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์

ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว - โรม 5:5

 

อลิซาเบ็ธต่อสู้กับอาการติดยามานาน เมื่ออาการดีขึ้นเธอจึงอยากช่วยผู้อื่น เธอเริ่มเขียนข้อความลงบนกระดาษแผ่นเล็กๆ และนำไปติดทั่วเมืองโดยไม่ใส่ชื่อ เธอสอดกระดาษนั้นไว้ใต้ที่ปัดน้ำฝน และติดตามเสาไฟฟ้าในสวนสาธารณะเธอเคยมองหาสัญลักษณ์ของความหวัง และบัดนี้เธอก็ทิ้งสัญลักษณ์นั้นไว้ให้คนอื่นมาค้นหาต่อ ข้อความหนึ่งที่เธอเขียนบอกว่า “รักมาก ส่งความหวังให้”

พระเยซูประทานความหวังที่มาพร้อมกับความรักให้กับเรา พระองค์ทรงนำความรักของพระองค์มาให้เราทุกวันใหม่ ความหวังที่มาพร้อมกับความรักนี้ที่ทำให้เรามีกำลังขึ้น พระองค์ไม่ได้นำความรักมาให้เราทีละหยด แต่ “ความรักของพระเจ้าได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเราโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว” เราจึงรู้ว่าพระองค์ทรงรักเรามาก

 

พระองค์ประสงค์จะใช้ช่วงเวลาที่เราทุกข์ยากเพื่อพัฒนาความอดทนและลักษณะนิสัยของเรา เพื่อเราจะมีชีวิตที่ครบบริบูรณ์และเต็มไปด้วยความหวัง และพระองค์ยังทรงรักเราแม้ในเวลาที่เราเหินห่างจากพระองค์

คุณกำลังมองหาสัญลักษณ์ของความหวังอยู่หรือไม่? พระเจ้าประทานความหวังพร้อมกับความรักเมื่อเรามีความสัมพันธ์กับพระองค์ เพราะความรักที่ไม่สูญสิ้น เราจึงหวังใจในชีวิตที่ครบบริบูรณ์ - AC

ความหวังคือสิ่งที่ยึดจิตวิญญาณเอาไว้