ความพอใจแท้จริง

นัยน์ตาก็ดูไม่อิ่ม หรือหูก็ฟังไม่เต็ม - ปัญญาจารย์ 1:8

ชายคนหนึ่งไปที่บริษัทนำเที่ยวและบอกว่าเขาต้องการเดินทางโดยเรือ พนักงานถามว่าต้องการจะไปที่ไหน “ผมไม่รู้” เขาตอบ พนักงานจึงแนะนำให้เขาดูลูกโลกใบใหญ่ในห้องนั้น เขาพิจารณา อยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างผิดหวังว่า “คุณมีให้เลือกแค่นี้เองหรือ”

โลกที่เราอยู่นี้มีสิ่งมากมายน่าชื่นชม ยกเว้นสิ่งผิดบาป เราสามารถและสมควรจะชื่นชมกับความรื่นรมย์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารมื้ออร่อยกับผองเพื่อน ธรรมชาติงดงามที่สร้างแรงบันดาลใจและน่าอัศจรรย์ใจ เสียงดนตรีไพเราะที่ชุบจิตวิญญาณให้ชุ่มชื่นหรือการงานที่ให้ความอิ่มเอมใจ

แม้ในโลกที่ถูกสาปใบนี้ เรายังสามารถพบความรื่นรมย์อันยิ่งใหญ่ได้ แต่การแสวงหาสิ่งเหล่านี้ก็ไม่อาจให้ความพึงพอใจที่เต็มเปี่ยมและยืนยาว แท้จริงแล้วคนที่อยู่เพียงเพื่อความพอใจของตน ไม่ว่าจะเขาจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน เขาก็ยังคงมีความปรารถนามากขึ้นเรื่อยๆ และแม้เขาจะได้ดื่มจากบ่อน้ำแห่งความรื่นรมย์ของโลกนี้มากเพียงไรก็ไร้ประโยชน์ เพราะเขาก็ยังคงกระหายอยู่ พวกเขาต้องยอมรับสิ่งที่กษัตริย์ซาโลมอนเคยกล่าวว่า “สารพัดก็อนิจจัง คือกินลมกินแล้ง”

เราจะประสบกับความพึงพอใจที่แท้จริงได้ก็โดยการใช้ชีวิตอยู่เพื่อพระคริสต์ - Richard W. De Haan

การให้พระคริสต์เป็นหนึ่งนำมาซึ่งความพึงใจที่ยั่งยืน

“ ผมต้องการอีก ”

คนรักเงินย่อมไม่อิ่มเงิน - ปัญญาจารย์ 5:10

ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดีในชั้นเรียนรวีฯ ของเด็กวัยสองขวบแต่แล้วเมื่อ “ชาร์ลี” มาถึง ในทันทีที่เขาผละจากอ้อมแขนของแม่ ชาร์ลีก็เริ่มต้นดิ้นและแผดเสียงร้องหาพ่อแม่อย่างกับแผ่นเสียงตกร่อง โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ

ขณะที่กำลังร้องอยู่นั้น เหรียญห้าเซนต์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็หล่นลงมา เสียงร้องของเขาเปลี่ยนไปทันที ขณะที่ชาร์ลีเอามือเล็กๆกำเหรียญนี้ไว้ เขาก็ร้องไม่หยุดว่า “ผมจะเอาเงินอีก!” ในที่สุด ผู้ใหญ่คนหนึ่งก็ได้ให้เหรียญหนึ่งเซนต์แก่เขา เพราะคิดว่าจะช่วยให้เขาหยุดร้องได้ แต่ทันทีที่ชาร์ลีได้เงิน เขาก็ร้องออกมาในทันทีว่า “ผมจะเอาอีกเหรียญหนึ่ง” แล้วก็เปลี่ยนมาเป็น “ผมต้องการเงินอีก!”

ผมได้แต่คิดว่าคำพูดของชาร์ลีเป็นคำพูดของผู้ใหญ่บางคนที่มีนิสัยแบบเด็ก เงินเป็นสิ่งจำเป็นก็จริง แต่กษัตริย์ซาโลมอนซึ่งเขียนหนังสือปัญญาจารย์ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ ตระหนักว่าผู้ที่รักเงินย่อมไม่อิ่มเงิน ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดที่จะมีชีวิตอยู่ ก็คือการทำงานหนักและพึงพอใจในสิ่งที่พระเจ้าทรงเพิ่มเติมให้ด้วยใจขอบพระคุณ

ใช่แล้ว ความรักและความไว้วางใจในพระเจ้า ทำให้ชีวิตมีความหมายมากกว่าการเป็นอย่างที่ชาร์ลีเป็น คือเอาแต่ร้องไม่หยุดว่า“ผมต้องการเงินอีก!” ถ้าหากเรามีพระเจ้าอยู่ในชีวิตของเราแล้วเราก็ไม่ต้องการสิ่งใดอีก - MRDII

ร่ำรวยในพระเจ้าดีกว่าร่ำรวยในข้าวของ

ติดต่อผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์

พระวาทะได้ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ และทรงอยู่ท่ามกลางเรา - ยอห์น 1:14

หลังจากเงินหลายล้านดอลลาร์หมดไป กับโครงการที่ยาวนาน 40 ปี นักวิทยาศาสตร์ยังติดต่อกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกไม่ได้ แต่ยังคงวิจัยต่อไป ผู้อำนวยการสถาบันเม้าท์วิลสันกล่าวว่าเขาหวังจะได้พบ “สิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าเรา ไม่เพียงด้านวิชาการแต่ด้านจิตวิญญาณและศีลธรรมด้วย”

บรรดานักวิทยาศาสตร์หวังว่าอารยธรรมต่างดาวเก่าแก่หลายพันล้านปี จะบอกเราได้ว่า ทำไมเราจึงมาอยู่ในโลกนี้ และทำอย่างไรจึงจะเอาชนะนิสัยที่ชอบทำลายล้างของเรา ซึ่งทำให้เราคิดค้นเทคโนโลยีสร้างอาวุธร้ายแรงขึ้นได้ หนังสือและภาพยนตร์ยอดนิยมที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างดาว บ่งบอกว่ามนุษยชาติกลัวการทำลายล้างกันและปรารถนาที่จะแสวงหาความหมายของชีวิต

หนังสือเผยพระเจ้าให้ฉันได้รู้ กล่าวว่าคนที่สนใจสิ่งมีชีวิตต่างดาว “อยากได้เพื่อนที่เหนือกว่า แต่ไม่เหนือกว่าจนเกินไป อย่างน้อยต้องเป็นประเภทเดียวกับเรา”

น่าเศร้าที่เขาแสวงหาผิดที่ พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ในพระคริสต์แล้ว พระคัมภีร์กล่าวว่า “มีคนกลางแต่ผู้เดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ คือพระเยซูคริสต์ผู้ทรงสภาพเป็นมนุษย์...ประทานพระองค์เองเป็นค่าไถ่สำหรับคนทั้งปวง” พระเยซูทรงเปิดเผยพระองค์แก่เราและทรงเปิดประตูสู่ชีวิตนิรันดร์ - HVL

หากต้องการมองพระเจ้าให้ชัดจงจับจ้องที่พระเยซูคริสต์

หนทางเดียวที่จะมีความสุข

พระเยซูทรงยืนและประกาศว่า “ถ้าผู้ใดกระหายผู้นั้นจงมาหาเราและดื่ม” - ยอห์น 7:37

ไม่มีความพึงพอใจใดในโลกนี้ที่ยั่งยืน ไม่มีสิ่งใดทำให้เราเต็มอิ่มได้ ไม่ว่า การแต่งงานครอบครัว เงินทอง ชื่อเสียง ความสำเร็จ การท่องเที่ยว ความสำเร็จด้านการกีฬาหรือการศึกษา ความพึงพอใจที่มาจากการแสวงหาของเราเอง จะเลือนหายไป และเหลือเพียงความทรงจำ

ชีวิตเราย่อมมีช่วงเวลาแห่งความสุข อาจเป็นเวลาแห่งความเบิกบานอย่างที่เราไม่คาดคิดมาก่อน แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นก็หายไปได้อย่างรวดเร็ว โดยเราไม่อาจย้อนเวลาและเรียกความรู้สึกเหล่านั้นกลับคืนมาได้

ถ้าเช่นนั้น ทำไมเราจึงยังคงแสวงหาสิ่งที่จะสร้างความพึงพอใจให้ตัวเองอยู่ร่ำไป เป็นเพราะจิตวิญญาณของเรากระหายหาพระเจ้า ความปรารถนาความหวังและความต้องการที่อยู่ในตัวเรา ล้วนบ่งบอกว่าเราโหยหาพระเจ้า เราเกิดมาเพื่อความรัก

ของพระองค์และไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีความรักนั้นพระองค์ทรงเป็นความสุขที่เราแสวงหามาตลอดชีวิต เราพบทุกสิ่งที่เราปรารถนาได้ในพระองค์และจะพบมากขึ้นเรื่อยๆ

หากคุณยังกระวนกระวายและโหยหาบางสิ่งในชีวิต จงตอบสนองคำเชิญของพระเยซูที่ว่า “จงมาหาเราและดื่ม” จงมาหาพระองค์ และดื่มพระคุณและการให้อภัยที่ทรงให้เปล่า แล้วคุณจะได้พบกับสันติสุขแท้ - DHR

ความสุขขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่สันติสุขขึ้นอยู่กับพระเยซู

รอคอย

แต่บ้านเมืองของเรานั้นอยู่ที่สวรรค์ เรารอคอยผู้ช่วยให้รอดซึ่งจะเสด็จมาจากสวรรค์คือพระเยซูคริสต์เจ้า - ฟีลิปปี 3:20

ในปี 1940 ซามูเอล เบคเค็ทท์ เขียนบทละครเรื่องคอยโกโดซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นบทละครเอกชิ้นหนึ่ง ชายสองคนยืนบนเวทีที่ว่างเปล่า มือล้วงกระเป๋าจ้องหน้ากันเท่านั้น ไม่มีการแสดงอะไรไม่มีบทพูด พวกเขายืนที่นั่นเพื่อรอคอยโกโด

ใครคือโกโด เป็นคนหรือ คือพระเจ้าใช่ไหม ลูอิส สเมเดสให้ความเห็นว่า โกโด “หมายถึงความฝันลมๆแล้งๆ ที่หลายคนยึดเหนี่ยวเพื่อหนีความจริง” ตอนจบของละครชายสองคนนี้ยังยืนอยู่บนเวทีโดยไม่ทำอะไร นอกจากรอเท่านั้น

เมื่อมีการฉลองครบ 50 ปีของละครเรื่องนี้ มีคนถาม เบคเค็ทท์ว่า “ตอนนี้คุณจะบอกเราได้หรือยังว่าใครคือโกโด”เขาตอบว่า “ผมจะไปรู้ได้ยังไง”

เรื่องคอยโกโดเป็นเหมือนอุปมาชีวิตของคนมากมายคือว่างเปล่าและไร้ความหมาย เป็นการรอคอยที่ไร้จุดหมายและถ้าปราศจากความรักพระคุณและพระปัญญาของพระเจ้า ชีวิตก็หมดหวัง ได้แต่รอเวลาที่ผ่านไปอย่างสูญเปล่า

แต่ความหวังของคริสเตียนแตกต่างโดยสิ้นเชิง เรากำลังรอและ “คอย” ความสุขซึ่งจะได้รับตามความหวัง คือการปรากฏของพระสิริของพระเจ้าใหญ่ยิ่งคือพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา ความหวังนั้นค้ำจุนเราไว้เป็นความหวังภายหลัง

จากโลกนี้ คือชีวิตแห่งพระพรที่ไม่อาจบรรยายได้ - VCG

สันติสุขยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคือการมีความหวังที่แน่นอนในสวรรค์