เพื่อนของเขารู้

เราจะไม่เรียกท่านทั้งหลายว่าบ่าวอีก... แต่เราเรียกท่านว่ามิตรสหาย – ยอห์น 15:15

 

เรน ลาคอสต์ นักเทนนิสระดับโลกในสมัยปลายทศวรรษ 1920 ระหว่างที่เขาเล่นเทนนิสอาชีพ เขาชนะการแข่งขันประเภทชายเดี่ยวในรายการใหญ่ๆ ถึง 7 รางวัล รวมถึงชัยชนะอย่างท่วมท้นที่วิมเบอร์ดัน ยูเอสโอเพนและเฟรนช์โอเพน เพื่อนของเขาเรียกว่า “เลอ ครอคโคไดล์ (เจ้าจระเข้)” ซึ่งเป็นชื่อที่เหมาะสมกับการเล่นอันแม่นยำของเขาบนสนาม

 

ลาคอสต์ ยอมรับชื่อเล่นนั้นและปักรูปจระเข้เล็กๆ ลงบนเสื้อคลุมและเมื่อเขาเติมมันเข้าไปในเสื้อเชิ้ตที่เขาออกแบบสัญสักษณ์นั้นก็ติดตลาด ในขณะที่ผู้คนนับพันๆทั่วโลกสู่ “เสื้อเชิ้ตจระเข้” สัญลักษณ์นั้นก็จะมีความหมายที่ลึกซึ้งสำหรับเพื่อนๆ ของลาคอสต์ซึ่งรู้ที่มาและความหมายของมัน

 

ไม้กางเขน สัญลักษณ์แห่งความเป็นคริสเตียนก็มีความหมายพิเศษสำหรับสหายทุกคนของพระคริสต์ ไม้กางเขนนั้นบอกเราถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของพระคริสต์ในการที่ทรงกระทำตามพระประสงค์ของพระบิดา ด้วยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อเรา เป็นสิทธิพิเศษเพียงใดที่ได้รู้จักพระองค์และได้เข้าส่วนในพระคำของพระองค์ที่ตรัสกับสาวกว่า “เราจะไม่เรียกท่านทั้งหลายว่าบ่าวอีก...แต่เรียกท่านว่ามิตรสหาย”

 

ผมนึกเห็นภาพเพื่อนคนหนึ่งของลาคอสต์มองดูจระเข้ตัวน้อยบนเสื้อเชิ้ตของใครสักคน แล้วพูดว่า “ผมรู้เรื่องราวเบื้องหลังสัญลักษณ์นั้น ลาคอสต์เป็นเพื่อนของผม” และผมก็สามารถนึกภาพสหายของพระเยซูมองดูไม้กางเขนและทำแบบเดียวกัน – DCM

เนื่องด้วยไม้กางเขนของพระคริสต์เราจึงสามารถเป็นสหายของพระองค์

อัศจรรย์แห่งกางเขน

หมายเอาพระเยซูเป็นผู้บุกเบิกความเชื่อและผู้ทรงทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์พระองค์ได้ทรงอดทนต่อกางเขน เพื่อความรื่นเริงยินดีที่ได้เตรียมไว้สำหรับพระองค์ –ฮีบรู 12:2

 

ขณะที่เดินทางไปประเทศออสเตรเลีย ในค่ำคืนหนึ่งเมื่อท้องฟ้าเปิด ผมมีโอกาสมองเห็นกลุ่มดาวกางเขนใต้ซึ่ง ปรากฏอยู่ทางซีกโลกใต้ และเป็นกลุ่มดาวทีมี่ลักษณะพิเศษมากกลุ่มหนึ่ง นักเดินเรือและผู้นำทางเริ่มพึ่งพากลุ่มดาวนี้ในการดูทิศทางและการเดินเรือในทะเลมาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 15 ถึงแม้กลุ่มดาวจะมีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถมองเห็นได้ตลอดทั้งปี ในค่ำคืนนั้นกลุ่มดาวกางเขนใต้สว่างสุกใสจนแม้แต่ผมเองก็ยังสามารถบอกตำแหน่งมันได้เป็นภาพที่สวยงามจริงๆ!

 

พระคัมภีร์ได้บันทึกถึงไม้กางเขนที่งดงามยิ่งกว่า คือไม้กางเขนของพระคริสต์ เมื่อเรามองดูดวงดาวเราได้เห็นฝีพระหัตถ์ขององค์พระผู้สร้าง แต่เมื่อเรามองดูไม้กางเขน เราได้เห็นพระผู้สร้างทรงสิ้นพระชนม์เพื่อสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง

 

อัศจรรย์แห่งกางเขนบนภูเขานั้นคือ ขณะที่เรายังเป็นคนบาป พระผู้ช่วยให้รอดได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา ผู้ที่วางใจในพระคริสต์ได้กลับคืนดีกับพระเจ้า และพระองค์จะนำทางพวกเขาไปตลอดชีวิต

 

การเสียสละพระชนม์ชีพของพระคริสต์บนไม้กางเขนคือการอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด! - BC

กางเขนของพระคริสต์เป็นหนทางข้ามไปสู่ชีวิตนิรันดร์เพียงทางเดียวที่ปลอดภัย

ชักนำโดยกางเขน

เมื่อเราถูกยกขึ้นจากแผ่นดินโลกแล้ว เราก็จะชักนำคนเป็นอันมากให้มาหาเรา – ยอห์น 12:32

 

อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือท่าเรือนิวยอร์กคบเพลิงแห่งเสรีภาพที่เธอชูไว้สูงเด่นนั้น ส่งสัญญาณไปยังคนนับล้านที่ถูกกดขี่อยู่ใต้อำนาจเผด็จการและการบีบบังคับ เพื่อนำพวกเขามาสู่สัญลักษณ์ของอนุสาวรีย์นั้น ซึ่งก็คือเสรีภาพ

 

ที่ฐานของเทพีเสรีภาพมีบทกลอนซึ่งประพันธ์โดย เอ็มมา ลาซารัส จารึกไว้ว่าจงมาเถิดผู้มีภาระหนักเหนื่อยล้านักปรารถนาการปลดปล่อยคนอ่อนแอเหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยที่รอคอยใครสักคนเสริมเรี่ยวแรง...ใจเหี่ยวแห้งจะได้รับความชื่นชู

 

มีอนุสาวรีย์หนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือประวัติศาสตร์ซึ่งนำเสรีภาพและการปลดปล่อยทางจิตวิญญาณมายังผู้คนทุกหนทุกแห่ง นั่นคือไม้กางเขนที่พระเยซูถูกตรึงเมื่อ 2,000ปีก่อน ภาพเหตุการณ์นี้อาจทำให้เราอยากถอยห่างในครั้งแรกจนเมื่อเราเห็นพระบุตรของพระเจ้าผู้ปราศจากบาปทรงสิ้นพระชนม์แทนเราเนื่องด้วยบาปของเรา จากกางเขนเราได้ยินพระองค์ตรัสว่า “โอพระบิดาเจ้า ขอโปรดอภัยโทษเขา”

และ “สำเร็จแล้ว” เมื่อ เรารับพระคริสต์เป็นพระผู้ไถ่ภาระหนักแห่งความผิดบาปก็หลุดออกไปจากจิตวิญญาณที่เหนื่อยล้าและเรามีเสรีภาพชั่วนิจนิรันดร์ คุณได้ยินและตอบสนองคำเชิญชวนของไม้กางเขนหรือยัง? – DJD

เสรีภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ เสรีภาพของการหลุดพ้นจากความบาป

ทำไมพระองค์ต้องสิ้นพระชนม์?

แต่ท่านบาดเจ็บเพราะความทรยศของเราทั้งหลาย...ที่ท่านต้องฟกช้ำนั้นก็ให้เราหายดี

– อิสยาห์ 53:1-10

 

พระคริสต์สิ้นพระชนม์เราจึงมีชีวิต การสิ้นพระชนม์ของพระองค์บนไม้กางเขนไม่ใช่อุบัติเหตุหรือเรื่องประหลาดใจสำหรับพระเจ้า แต่เป็นเหตุการณ์ที่จำเป็นจริงๆในแผนการของพระองค์สำหรับช่วยเหลือเรา

 

พระเจ้าบอกว่าความตายเป็นโทษของผู้ที่ทำบาป และทุกๆ คนล้วนทำบาปซึ่งต้องรับผลนั้น แต่เพราะความรักพระองค์จึงทรงช่วยเรา พระองค์ไม่สามารถตรัสเพียงว่า “เรารักเจ้า เราจะช่วยเจ้าให้รอดด้วยการมองข้ามบาปของเจ้าและลืมมันไป” พระเจ้าผู้บริสุทธิ์และยุติธรรม ไม่อาจตอบสนองต่อความบาปด้วยการนิ่งเฉยได้ ความบาปผิดยังต้องได้รับการจัดการ ค่าปรับของความบาปยังต้องถูกชำระ

 

และนี่คือสิ่งมหัศจรรย์ของเรื่องนี้ พระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้าแบกรับความบาปของเราไปที่กางเขน จ่ายค่าไถ่ด้วยความตาย และทรงเป็นขึ้นมาในวันที่สาม การคืนพระชนม์พิสูจน์ว่าพระเจ้าทรงยอมรับค่าไถ่นี้และได้กระทำอย่างยุติธรรมแล้ว

 

ก่อนที่คุณและผมจะเกิด พระเจ้าทรงจัดเตรียมแผนการนี้ไว้โดยพระคุณ สิ่งที่พระเจ้าเตรียมไว้ให้ก็คือ “ทุกคนที่วางใจในพระบุตร (พระเยซู) นั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์”

 

คุณมีชีวิตนิรันดร์หรือยัง? พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ก็ด้วยเหตุนี้ – MRD

ความยุติธรรมและพระเมตตาของพระเจ้าบรรจบกันที่ไม้กางเขน

ไม้กางเขนบนภูเขาฮอลลีวูด

แต่ข้าพเจ้าไม่ต้องการอวด นอกจากเรื่องกางเขนของพระเยซูคริสตเจ้าของเรา – กาลาเทีย 6:14

 

ภาพหนึ่งที่คนจดจำเกี่ยวกับอเมริกาคือ ป้ายคำว่า “ฮอลลีวูด” ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย คนจากทั่วโลกมาที่เมือง “ทินเซิลทาวน์” เพื่อดูรอยประทับมือและเท้าของดาราระดับโลกและอาจได้พบปะคนดัง นักท่องเที่ยวทุกคนสามารถมองเห็นป้ายฮอลลีวูดที่ตั้งอยู่เชิงเขาใกล้ๆ ได้ชัดเจน

 

แต่บนภูเขาฮอลลีวูดมีสิ่งที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่เป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นตาและมีความหมายนิรันดร์ คือไม้กางเขนสูงเกือบสิบเมตรที่ตั้งหันไปทางตัวเมือง เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงลูกสาวมหาเศรษฐีที่ชื่อ คริสตีน เวเธอร์อิล สตีเฟนสัน ผู้ได้ก่อตั้งโรงละครนักแสวงบุญ เพื่อจัดแสดงละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระเยซู

 

สัญลักษณ์สองแห่งนี้ สื่อถึงสิ่งที่ขัดแย้งกัน ไม้กางเขนมีความหมายนิรันดร์ แต่ภาพยนตร์ไม่ว่าดีหรือไม่ดี เมื่อมาแล้วก็ไป งานบันเทิงหรือศิลปะจะคงอยู่เพียงชั่วคราว

 

แต่ไม้กางเขนเตือนให้เราคิดถึงเหตุการณ์สำคัญแห่งชีวิตนิรันดร์ พันธกิจของพระเยซูเป็นเรื่องราวของพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยรักที่พยายามติดตามและเชื้อเชิญให้เรารับเอาการอภัยที่ทรงเสนอให้ การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูหยั่งรากลึกในประวัติศาสตร์ การฟื้นคืนพระชนม์พิชิตความตายและมีผลต่อชีวิตนิรันดร์ของเราทุกคน ความหมายและฤทธิ์อำนาจของไม้กางเขนจะคงอยู่ตลอดไป - HDF

การจะรู้ความหมายของกางเขนคุณต้องรู้จักผู้สิ้นพระชนม์ที่นั่นก่อน