COVID-19 : เราจะโทษใคร? ทำไมเหตุการณ์แบบนี้ถึงเกิดขึ้นอีกแล้ว? มันเป็นความผิดของใคร? ผมมั่นใจว่าคำถามเหล่านี้กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในประเทศไทยและทั่วโลก การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 ที่เรียกกันในปัจจุบัน กำลังเป็นที่น่าสนใจของสื่อต่างๆ และง่ายมากที่สื่อจะเขียนหัวข้อข่าวให้ดูน่าสนใจโดยการหาผู้กระทำผิดหรือทำให้เกิดการแพร่ระบาด
บางทีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อาจเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติของมนุษย์เมื่อต้องเผชิญกับวิกฤต เช่น ในปี 2546 การแพร่ระบาดของโรคซาร์สในประเทศจีนมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 8,000 คนและเสียชีวิต 800 คน ทำให้รัฐบาลจีนถูกต่อว่าอย่างหนักต่อการบริหารจัดการการแพร่ระบาดในครั้งนั้น
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 2,369 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 เมษายน 2563) และจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 ราย ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
ที่ผ่านมามีการถกเถียงกันและวิจารณ์การบริหารจัดการของรัฐบาลในแต่ละประเทศต่อสถาการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เช่นในประเทศสิงคโปร์ประชาชนเรียกร้องให้ผู้นำออกคำสั่งห้ามให้ผู้ที่เดินทางจากประเทศจีนเข้าประเทศโดยเด็ดขาด โดยการยื่นคำร้องพร้อมรายชื่อของประชาชนที่เห็นด้วยนับพันคน เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวและความกังวลของประชาชนสิงคโปร์ ความรู้สึกเหล่านี้เป็นที่เข้าใจได้และสมเหตุสมผล เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไวรัสแพร่ระบาดในเมืองที่เราอาศัยอยู่ แล้วก็มีคนถามผมว่า “คุณได้อธิษฐานเผื่อประชาชนในเมืองต่างๆ แล้วหรือยัง?” ผมรู้สึกละอายใจที่จะบอกว่า ผมแทบไม่ได้คิดถึงความเป็นอยู่ของผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ความจริงคือผมมัวแต่นึกถึงตัวเองและผู้คนในประเทศของผมว่าจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง “คุณได้อธิษฐานเผื่อประชาชนในเมืองต่างๆ แล้วหรือยัง?” บางทีอาจเป็นเหตุผลที่อาจารย์เปาโลตรัสสอนให้คริสเตียนรู้จักรักและช่วยเหลือผู้อื่น ท่านได้กล่าวว่า “อย่าทำสิ่งใดในทางชิงดีกันหรือถือดี แต่จงมีใจถ่อมถือว่าคนอื่นดีกว่าตัว อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆด้วย” (ฟีลิปปี 2:3-4)
การให้ความเท่าเทียมกันหรือให้ความสำคัญกับเรื่องของผู้อื่นก่อนส่วนตนนั้น แปลว่าเรารู้จักดูแลและช่วยเหลือผู้อื่น ถึงแม้ว่าเราอาจจะอยู่ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากก็ตาม หรือแม้แต่การที่เราจะต้องสูญเสียบางอย่างไปในขณะที่เราช่วยผู้อื่น ใช่ครับมันยากที่จะทำได้เพราะความรักแท้จริงคือการเสียสละตนเอง
ศิษยาภิบาลคริสตจักรแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นได้เขียนจดหมายถึงสมาชิกของเขาว่า “คริสเตียนไม่ได้เพียงเจ็บปวดกับผู้คนในเมืองนี้เท่านั้น แต่เรามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการอธิษฐานเผื่อผู้ที่กำลังหวาดกลัวในเมืองอื่นด้วย อธิษฐานให้พวกเขามีสันติสุขที่มาจากองค์พระเยซูคริสต์” พระเจ้าทรงประทานสิ่งดีให้กับผู้ที่วางใจในพระองค์เสมอ ในวิกฤตนี้เราสามารถทำอะไรได้บ้างในฐานะคริสเตียน? เราสามารถมีส่วนช่วยให้ผู้อื่นได้รับความรอดฝ่ายวิญญาณ โดยการเล่าประสบการของเรากับพระเจ้า ประกาศข่าวประเสริฐและพระกิตติคุณ และแบ่งปันประสบการณ์การวางใจและนิ่งสงบในพระเจ้าผู้ทรงครอบครองอยู่เหนือทุกเหตุการณ์ เพราะพระเจ้าทรงประทานสิ่งดีให้กับผู้ที่วางใจในพระองค์เสมอ เราสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้แม้ในขณะที่เรากำลังต่อสู้กับความกลัวและความกังวลของเราที่มีต่อสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เราสามารถอธิษฐานเผื่อประชาชนทั่วโลกให้พวกเขาได้มีประสบการณ์ส่วนตัวกับพระเจ้าผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ :
ในฐานะผู้ที่มีการทรงสถิต การปกป้อง และสันติสุขที่มาจากพระเจ้า พวกคุณจะร่วมอธิษฐานเผื่อผู้คนในเมืองต่างๆ ทั่วโลกกับผมมั้ย? - Leslie Koh - สาธุการแด่พระบิดาเจ้า ข้าพระองค์ขออธิษฐานเผื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด หรือ ผู้ที่กำลังกังวลต่อสถานการณ์นี้ ขอพระเจ้าทรงโปรดทำการอัศจรรย์ให้พวกเขาได้เห็นถึงการทรงสถิตอยู่ด้วย การปกป้อง และสันติสุขที่มาจากพระองค์ แชร์บทความนี้ |