หูมีไว้ฟัง
ไดแอน ครูเกอร์ นักแสดงหญิงได้รับบทบาทที่จะทำให้เธอมีชื่อเสียง แต่เธอจะต้องแสดงเป็นภรรยาและแม่ยังสาวซึ่งสูญเสียสามีและลูก และในชีวิตเธอก็ไม่เคยสูญเสียเช่นนั้น เธอไม่รู้ว่าจะแสดงได้สมจริงหรือไม่ แต่ก็ตอบตกลง และเพื่อเป็นการเตรียมตัว เธอได้เข้าร่วมกลุ่มพบปะของคนที่ต้องเดินผ่านหุบเขาแห่งความเศร้าโศก
ไม่ถูกหิมะกัด
วันหนึ่งในฤดูหนาว ลูกๆ ขอออกไปเล่นเลื่อนหิมะ อุณหภูมิลบสิบเจ็ดองศาเซลเซียส เกล็ดหิมะจับอยู่ที่หน้าต่าง ฉันคิดแล้วก็อนุญาต แต่บอกให้ลูกๆ ใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่น อยู่ใกล้กัน และกลับเข้ามาหลังจากสิบห้านาที
พยายามทำให้ประทับใจ
เมื่อลงพื้นที่ทำงาน อาจารย์เกือบจำนักศึกษาคนหนึ่งไม่ได้ ในชั้นเรียนเธอสวมรองเท้าสูงหกนิ้วและใส่กางเกงขายาวคลุมไว้ แต่เมื่อสวมรองเท้าหุ้มข้อ เธอสูงไม่ถึง 150 เซนติเมตร “รองเท้าส้นสูงคือที่หนูอยากเป็น แต่รองเท้าหุ้มข้อคือตัวจริงของหนู” เธอหัวเราะ
ชายธรรมดา
วิลเลียม แครี่เป็นเด็กขี้โรคที่เกิดในครอบครัวเล็กๆ ใกล้นอร์ธแธมป์ตันอังกฤษ อนาคตของเขาดูไม่ค่อยสดใสแต่พระเจ้าทรงมีแผนการ เขาย้ายไปอินเดียเขานำการปฏิรูปทางสังคมที่นั่นและได้แปลพระคัมภีร์เป็นภาษาอินเดียท้องถิ่นหลายภาษา เขารักพระเจ้าและรักผู้คน และทำสิ่งมากมายสำเร็จเพื่อพระเจ้า
ดาวิดบุตรเจสซีเป็นชายหนุ่มธรรมดา เป็นลูกคนเล็ก ท่านดูเหมือนเป็นคนเลี้ยงแกะที่ไม่มีความสำคัญในเบธเลเฮม (1 ซมอ.16:11-12) แต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจของดาวิดและมีแผนการสำหรับท่าน พระเจ้าปฏิเสธกษัตริย์ซาอูลเพราะการไม่เชื่อฟัง ขณะที่ผู้เผยพระวจนะซามูเอลเสียใจกับการตัดสินใจของซาอูล พระเจ้าทรงเรียกซามูเอลให้แต่งตั้งลูกชายคนหนึ่งของเจสซีเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่
เมื่อซามูเอลเห็นเอลีอับที่สูงใหญ่ ท่านคิดว่าเป็น “ผู้ที่พระองค์ทรงให้เจิมไว้ก็อยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าแน่แล้ว” (ข้อ 6) แต่กลยุทธ์การเลือกกษัตริย์ของพระเจ้าต่างจากซามูเอลมาก พระเจ้าปฏิเสธบุตรชายทุกคนของเจสซียกเว้นลูกคนเล็กสุด การเลือกดาวิดเป็นกษัตริย์ดูเหมือนจะไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีที่มาจากพระเจ้าในตอนแรก อย่าว่าแต่ทำให้ประเทศเลย เด็กเลี้ยงแกะจะทำอะไรให้ชุมชนของตัวเองได้
น่าอุ่นใจจริงๆ ที่รู้ว่าพระเจ้าทรงรู้จักจิตใจของเราและทรงมีแผนการสำหรับเรา
ตามผู้นำ
เครื่องบินขับไล่สามลำบินผ่านท้องฟ้าเหนือบ้านเราพร้อมเสียงดัง และบินใกล้กันจนดูเหมือนเป็นลำเดียว “โอ้โฮ” ฉันบอกสามี แดนเห็นด้วย “น่าประทับใจมาก” เราอยู่ใกล้ฐานทัพอากาศ จึงมักเห็นภาพเช่นนี้
เลือกเส้นทาง
ผมมีภาพถ่ายชายหนุ่มบนหลังม้าบนภูเขาในโคโลราโดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอันงดงาม เขากําลังครุ่นคิดว่าควรเลือกไปต่อในเส้นทางใด ทําให้ผมคิดถึงบทกวี “ถนนที่ไม่ได้เลือก” ของโรเบิร์ต ฟรอสต์ ซึ่งขบคิด เรื่องทางสองสายที่อยู่เบื้องหน้า ทั้งสองทางดูเชิญชวนพอๆ กัน แต่เขาคงจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีก เขาจึงต้องเลือกสักทาง ฟรอสต์เขียนไว้ว่า “ทางสองสายทอดเข้าไปในป่า และฉันเลือกทางที่มีคนเคยผ่านน้อยกว่า และนั่นได้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป"
ถามพระเจ้าก่อน
ช่วงแรกของชีวิตแต่งงาน ผมต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะเดาใจภรรยาว่าเธอชอบอะไร เธอชอบกินมื้อเย็นเงียบๆbที่บ้าน หรืออยากออกไปร้านอาหารหรู ผมจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนได้ไหม หรือเธออยากให้ผมมีเวลาให้ช่วงสุดสัปดาห์ แทนที่จะมัวเดาและตัดสินใจไปก่อน ผมถามเธอว่า “คุณอยากได้แบบไหน”
เดินในทางพระเจ้า
"เราจะไปทางนี้” ผมแตะไหล่ลูกชายและพาเขาเดินฝ่าฝูงชนกลับมาในทางที่แม่และพี่ๆ ของเขาเดินนำไป ผมต้องทำแบบนี้หลายครั้งในวันที่ครอบครัวของเราไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน เขาเหนื่อยและถูกเบี่ยงเบนความสนใจได้ง่าย ผมสงสัยว่า แค่เดินตามแม่และพี่ทำไมลูกถึงทำไม่ได้
บ้านบนศิลา
หลังจากอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งมาหลายปี เพื่อนของฉันก็ตระหนักว่าห้องนั่งเล่นกำลังทรุด มีรอยแยกบนผนังและหน้าต่างบานหนึ่งเปิดไม่ได้แล้ว พวกเขารู้มาว่าห้องนี้ต่อเติมขึ้นโดยไม่มีฐานราก การแก้ไขงานคุณภาพต่ำนี้หมายถึงการทำงานหลายเดือนเพราะช่างก่อสร้างต้องวางฐานรากใหม่