“ผมรู้ว่าวิธีเดียวที่จะประสบชัยชนะคือผมจะต้องลืมเรื่องของครอบครัว ภรรยา ลูกชาย และลูกสาวของผม” จอร์ดอนกล่าว “ผมพบว่าผมไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ พวกเขาถักทอเป็นเนื้อเดียวกับจิตใจและจิตวิญญาณของผม” จอร์ดอนอยู่ลำพังในพื้นที่ห่างไกล เขาเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ที่ผู้เข้าแข่งขันต้องเอาชีวิตรอดกลางแจ้งโดยใช้เสบียงให้น้อยที่สุดและนานที่สุด สิ่งที่ทำให้เขาต้องยอมแพ้ไม่ใช่หมีกริซลี อุณหภูมิที่จุดเยือกแข็ง การบาดเจ็บ หรือความหิวโหย หากแต่เป็นความเหงาที่ถาโถมและความปรารถนาที่จะได้อยู่กับครอบครัวของเขา

เราอาจมีทักษะที่จำเป็นทุกอย่างสำหรับการเอาชีวิตรอดในถิ่นทุรกันดาร แต่การแยกตัวเองออกจากชุมชนจะทำให้เราล้มเหลวอย่างแน่นอน ผู้มีปัญญาที่เขียนพระธรรมปัญญาจารย์ กล่าวว่า “สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่า…อีกคนหนึ่งจะได้พยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น” (4:9-10) ชุมชนที่ให้เกียรติพระคริสต์นั้นแม้จะเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงวุ่นวาย แต่ชุมชนนั้นก็มีความสำคัญที่ช่วยให้เราอยู่รอด เราไม่มีทางที่จะต่อสู้กับการทดลองของโลกนี้ได้หากเราพยายามที่จะจัดการด้วยตัวเอง ผู้ที่ตรากตรำทำงานอยู่ตัวคนเดียวก็ตรากตรำโดยเปล่าประโยชน์ (ข้อ 8) หากไม่มีชุมชนแล้ว เราจะเสี่ยงต่ออันตรายมากขึ้น (ข้อ 11-12) เมื่อเปรียบกับเชือกเส้นเดียว “เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้” (ข้อ 12) ของประทานแห่งชุมชนที่มีความรักและมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางไม่เพียงคอยหนุนน้ำใจเรา แต่ยังทำให้เรามีกำลังที่จะอยู่รอดแม้ในสถานการณ์ที่ท้าทาย เราต่างต้องการกันและกัน