ครั้งแรกที่เราพบกับเฮนรี่เพื่อนบ้านของเรา เขาหยิบพระคัมภีร์ที่ขาดวิ่นออกมาจากกระเป๋าสะพายของเขา เขาถามเราด้วยแววตาเป็นประกายว่า เราอยากจะพูดคุยกับเขาเรื่องพระคัมภีร์หรือไม่ เราพยักหน้าและเขาพลิกไปดูบางข้อความที่ไฮไลท์ไว้ เขาเอาสมุดบันทึกที่เต็มไปด้วยข้อสังเกตของเขามาให้เราดูและยังบอกอีกว่าเขาได้ทำไฟล์ในคอมพิวเตอร์เพื่อนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ

เฮนรี่เล่าให้เราฟังต่อว่าเขามาจากครอบครัวที่มีปัญหา และในยามที่โดดเดี่ยวและสถานการณ์ย่ำแย่ที่สุดนั้น เขาได้ต้อนรับพระเยซู โดยการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์มาเป็นรากฐานความเชื่อของเขา (กจ.4:12) ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปเมื่อองค์พระวิญญาณทรงช่วยเหลือเขาในการปฏิบัติตามหลักการของพระคัมภีร์ แม้เฮนรี่จะมอบชีวิตให้กับพระเจ้ามาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่เขายังคงกระตือรือร้นและเปี่ยมไปด้วยพลัง

ความกระตือรือร้นของเฮนรี่เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันผู้ซึ่งดำเนินชีวิตกับพระเยซูมานานหลายปีแล้ว ให้กลับมาทบทวนความกระตือรือร้นในฝ่ายวิญญาณของตัวเองใหม่ อัครทูตเปาโลเขียนว่า “อย่าอ่อนระอา จงมีจิตใจกระตือรือร้นด้วยพระวิญญาณ จงปรนนิบัติองค์พระผู้เป็นเจ้า” (รม.12:11) สิ่งนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ทำตามได้ยาก เว้นแต่ฉันจะยอมให้พระวจนะได้เข้ามาบ่มเพาะให้ฉันมีทัศนคติแห่งการมีใจที่ขอบพระคุณในทุกสิ่งที่พระเยซูทำเพื่อฉัน

ความกระตือรือร้นเพื่อพระคริสต์มาจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้นและมากขึ้น ไม่เหมือนกับอารมณ์ที่มีขึ้นมีลง ยิ่งเราเรียนรู้เกี่ยวกับพระองค์มากเท่าไร พระองค์ก็ยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น และความประเสริฐของพระองค์ก็จะยิ่งท่วมท้นจิตวิญญาณของเราและไหลล้นออกไปสู่ผู้คนในโลก