ในเดือนมีนาคมค.ศ. 1945 “กองทัพผี” ได้ช่วยกองกำลังสหรัฐในการข้ามแม่น้ำไรน์จนสำเร็จ ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ฐานปฏิบัติการที่สำคัญจากแนวรบด้านตะวันตกในสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารเหล่านี้ไม่ใช่ผีแต่เป็นมนุษย์ และทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของกองบัญชาการหน่วยรบพิเศษที่ 23 ในปฏิบัติการครั้งนี้ กองทหารจำนวน 1,100 นาย ได้แสร้งทำเหมือนกับมีทหาร 30,000 นาย โดยใช้กลลวงเป็นรถถังเป่าลม ขยายเสียงหน่วยระเบิด และเสียงยานพาหนะโดยเปิดผ่านลำโพง และอื่นๆอีกมากมาย สมาชิกของกองทัพผีซึ่งมีจำนวนไม่มากสามารถทำให้ศัตรูหวาดกลัวได้ด้วยสิ่งที่ดูเหมือนเป็นกองทัพใหญ่

ชาวมีเดียนและพันธมิตรก็ตัวสั่นต่อหน้ากองทัพเล็กๆที่ดูเหมือนเป็นกองทัพใหญ่ซึ่งบุกมาในเวลากลางคืน (วนฉ.7:8-22) พระเจ้าทรงใช้กิเดโอนซึ่งเป็นผู้วินิจฉัยและผู้นำทางทหารของอิสราเอล เพื่อทำให้กองทัพที่อ่อนแอของท่านเป็นที่หวาดกลัวของศัตรู พวกเขายังใช้เสียงประกอบ (เสียงเป่าแตร เสียงหม้อแตก และเสียงมนุษย์) และวัตถุที่มองเห็นได้ (คบเพลิงที่ลุกโชน) เพื่อทำให้ศัตรูที่มีจำนวนมหาศาลราวกับ “ตั๊กแตนเป็นฝูงๆ” (ข้อ 12) เชื่อว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวใหญ่ อิสราเอลเอาชนะศัตรูได้ในคืนนั้นด้วยกองกำลังทหารที่ถูกลดจำนวนลงจาก 32,000 นาย เหลือเพียง 300 นายตามคำสั่งของพระเจ้า (ข้อ 2-8) เพื่อให้้ชัดเจนว่าใครคือผู้ชนะในสงครามอย่างแท้จริง ดังที่พระเจ้าตรัสกับกิเดโอนว่า “เรามอบเขาไว้ในมือของเจ้าแล้ว” (ข้อ 9)

เมื่อเรารู้สึกอ่อนแอและด้อยค่า ให้เราแสวงหาพระเจ้าและพึ่งพิงในกำลังของพระองค์แต่ผู้เดียว เพราะ “ความอ่อนแอมีที่ไหน เดชของ[พระเจ้า] ก็มีฤทธิ์ขึ้นเต็มขนาดที่นั่น” (2 คร.12:9)