เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเล่าว่าชีวิตอธิษฐานของเธอดีขึ้นเพราะผู้จัดการของเรา ฉันประทับใจเมื่อคิดว่าผู้นำที่น่าอึดอัดใจของเราแบ่งปันข้อคิดบางอย่างที่มีคุณค่าฝ่ายวิญญาณกับเธอและมีอิทธิพลต่อการอธิษฐานของเธอ แต่ฉันเข้าใจผิด เพื่อนและเพื่อนร่วมงานอธิบายต่อว่า “ทุกครั้งที่ฉันเห็นเขาเข้ามา ฉันก็เริ่มอธิษฐาน” เวลาในการอธิษฐานของเธอพัฒนาขึ้นเพราะเธออธิษฐานมากขึ้นก่อนสนทนากับเขาทุกครั้ง เธอรู้ว่าเธอต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้าในการทำงานร่วมกับผู้จัดการซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทาย และเธอร้องทูลพระองค์มากขึ้นเพราะเหตุนี้

การอธิษฐานของเพื่อนร่วมงานในเวลาที่ลำบากและเมื่อต้องมีปฏิสัมพันธ์นั้นเป็นสิ่งที่ฉันนำมาใช้ นอกจากนี้ยังเป็นการทำตามพระวจนะจากพระธรรม 1 เธสะโลนิกา เมื่อเปาโลเตือนผู้เชื่อในพระเยซูว่า “จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณในทุกกรณี” (5:17-18) ไม่ว่าเราจะพบเจอกับอะไร การอธิษฐานเป็นวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดเสมอ เพราะทำให้เราเชื่อมต่อกับพระเจ้าและเชิญให้พระวิญญาณของพระองค์ทรงนำเรา (กท.5:16) แทนที่จะพึ่งพาในการจัดการของมนุษย์ การอธิษฐานช่วยให้เรา “อยู่อย่างสงบสุขด้วยกัน” (1 ธส.5:13) แม้ในยามที่เราเผชิญกับความขัดแย้ง

เพราะพระเจ้าทรงช่วยเรา เราจึงสามารถชื่นชมยินดีในพระองค์ อธิษฐานในทุกกรณีและขอบพระคุณได้บ่อยครั้ง และสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราอยู่ร่วมกับพี่น้องในพระเยซูได้อย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากยิ่งขึ้น