ทางตอนใต้ของหมู่เกาะบาฮามาสมีผืนดินเล็กๆที่เรียกว่าเกาะเรกเก็ตในศตวรรษที่ 19 เกาะแห่งนี้มีอุตสาหกรรมการผลิตเกลือที่คึกคัก แต่เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าวตกต่ำลง ผู้คนจำนวนมากจึงอพยพไปยังเกาะใกล้เคียง ในปี 2016 ขณะที่มีประชากรไม่ถึงแปดสิบคนอาศัยอยู่แต่เกาะก็มีลักษณะเด่นของผู้เชื่อจาก 3 คณะนิกาย กระนั้นผู้คนก็มารวมตัวกันในที่แห่งเดียวเพื่อนมัสการและสามัคคีธรรมกันในแต่ละสัปดาห์ เนื่องจากมีผู้อยู่อาศัยเพียงไม่กี่คน ความรู้สึกของความเป็นชุมชนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพวกเขา

ผู้คนในคริสตจักรยุคแรกรู้สึกถึงความจำเป็นและความต้องการอย่างยิ่งยวดในการมีชุมชนเช่นกัน พวกเขาตื่นเต้นกับความเชื่อใหม่ที่ก่อร่างขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นได้โดยการสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นของพระเยซู แต่ก็รู้ด้วยว่าในทางกายภาพพระองค์ไม่ได้อยู่กับพวกเขาอีกต่อไป พวกเขาจึงรู้ว่าจำเป็นจะต้องมีกันและกัน พวกเขาอุทิศตัวฟังคำสอนของอัครทูต ร่วมสามัคคีธรรมและรับมหาสนิท (กจ. 2:42) พวกเขารวมตัวกันในบ้านเพื่อนมัสการและร่วมรับประทานอาหารตลอดจนดูแลความต้องการของผู้อื่น มีการบรรยายภาพของคริสตจักรเอาไว้ว่า “คนทั้งปวงที่เชื่อนั้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” (4:32) พวกเขาประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์จึงสรรเสริญพระเจ้าอย่างขะมักเขม้น และนำความต้องการของคริสตจักรทูลต่อพระองค์ด้วยการอธิษฐาน

ชุมชนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตและให้ความช่วยเหลือแก่เรา อย่าพยายามดำเนินชีวิตเพียงลำพัง พระเจ้าจะพัฒนาความรู้สึกมีส่วนร่วมในชุมชนขณะที่คุณแบ่งปันความทุกข์และความสุขของคุณกับผู้อื่น และเข้าใกล้พระองค์ร่วมกัน