“โปรดล้างฉันที!” แม้ว่าคำเหล่านั้นไม่ได้เขียนไว้บนรถของผม แต่ก็น่าจะเขียนไว้ ฉะนั้นผมจึงออกไปล้างรถ และคนขับรถคนอื่นๆก็เช่นกันที่ต้องการชำระคราบสิ่งสกปรกที่ตกค้างจากถนนเกลือหลังจากหิมะตกเมื่อไม่นานมานี้ คิวยาวและการบริการก็ช้า แต่มันก็คุ้มค่าแก่การรอคอย ผมจากมาด้วยรถที่สะอาด และเพื่อชดเชยความล่าช้าในการให้บริการ ผมได้บริการล้างรถฟรี!

การได้รับการชำระล้างโดยคนอื่นเป็นผู้จ่าย นั่นคือข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ พระเจ้าประทานการยกโทษบาปแก่เราผ่านการสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นของพระเยซู มีใครในพวกเราบ้างที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้อง “อาบน้ำ” เมื่อ “สิ่งชั่วร้ายและความสกปรก” ของชีวิตเกาะติดตัวเรา เมื่อเราเปรอะเปื้อนด้วยความคิดที่เห็นแก่ตัวหรือการกระทำที่ทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น ซึ่งทำให้เราสูญเสียสันติสุขในพระเจ้า สดุดี 51 คือเสียงร้องทูลของดาวิดเมื่อการทดลองมีชัยในชีวิตของท่าน เมื่อเผชิญหน้ากับที่ปรึกษาฝ่ายวิญญาณในบาปของท่าน (ดู 2 ซมอ.12) ท่านร้องว่า “ขอทรงล้างข้าพระองค์!” ท่านอธิษฐานว่า “ขอทรงชำระข้าพระองค์ด้วยต้นหุสบข้าพระองค์จึงจะสะอาด ขอทรงล้างข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะขาวกว่าหิมะ” (ข้อ 7)

คุณรู้สึกสกปรกและรู้สึกผิดไหม จงไปหาพระเยซูและจดจำถ้อยคำเหล่านี้ว่า “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น” (1 ยน.1:9)