เราทุกคนต่างทิ้งเสี้ยวหนึ่งของตัวเราไว้เบื้องหลังเมื่อเราต้องย้ายไปอยู่ที่แห่งใหม่ แต่การจะเป็นผู้อาศัยถาวรที่วิลล่า ลาส เอสเทรลลัส ในทวีปแอนตาร์กติกา ซึ่งเป็นดินแดนที่หนาวเย็นและเปล่าเปลี่ยว การทิ้งชิ้นส่วนเล็กๆของตัวคุณไว้เบื้องหลังเป็นสิ่งที่คุณต้องทำจริงๆ เพราะโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปถึง 1,000 กิโลเมตร หากใครไส้ติ่งแตกเขาจะตกอยู่ในภาวะวิกฤต ดังนั้นผู้ที่ต้องการอาศัยอยู่ที่นั่นจะต้องผ่าตัดไส้ติ่งออกก่อนจะย้ายเข้าไป

ฟังดูเข้มงวดมากใช่ไหม แต่นั่นไม่เข้มงวดเท่ากับการจะเป็นผู้อาศัยในแผ่นดินของพระเจ้า เพราะผู้คนต้องการจะติดตามพระเยซูตามเงื่อนไขของตัวเองไม่ใช่ของพระองค์ (มธ.16:25-27) พระองค์จึงทรงให้คำจำกัดความใหม่ในการเป็นสาวก พระองค์ตรัสว่า “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเองและรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา” (ข้อ 24) ซึ่งรวมถึงการเตรียมพร้อมที่จะสละทุกสิ่งที่มาแข่งขันกับพระองค์และแผ่นดินของพระองค์ และเมื่อเราแบกกางเขนของเรา เรากำลังประกาศว่าเรายอมรับการกดขี่ทางสังคม ทางการเมือง และแม้กระทั่งยอมตายเพื่อสำแดงความสัตย์ซื่อต่อองค์พระคริสต์และพร้อมไปกับการยอมสละและยอมแบกกางเขนนั้น เรายินดีที่จะร่วมติดตามพระองค์อย่างแท้จริง นี่คือท่าทีในการติดตามการทรงนำของพระเจ้าเมื่อพระองค์ทรงนำเราในการรับใช้และเสียสละทุกชั่วขณะในชีวิตของเรา

การติดตามพระเยซูมีความหมายมากยิ่งกว่าการทิ้งชิ้นส่วนเล็กๆในชีวิตเราไว้เบื้องหลัง ด้วยความช่วยเหลือของพระองค์ การติดตามพระเยซูนั้นคือการยอมรับและยอมมอบหมดทั้งชีวิตของเรา รวมถึงร่างกายของเรา แด่พระองค์เพียงผู้เดียว