ช่วงปลายยุคปี 1800 ผู้คนในที่ต่างๆได้พัฒนาวิธีในการทำพันธกิจที่คล้ายคลึงกันในช่วงเวลาเดียวกัน ครั้งแรกคือในปี 1877 ที่เมืองมอนทรีออล แคนาดา อีกแนวคิดหนึ่งเริ่มขึ้นที่นครนิวยอร์กในปี 1878 โดยภายในปี 1922 มีการดำเนินโครงการไปราวห้าพันโครงการทุกช่วงฤดูร้อนในทวีปอเมริกาเหนือ

ประวัติศาสตร์ยุคแรกของค่ายฝึกอบรมพระคัมภีร์ภาคฤดูร้อน(ฝคร.)จึงเริ่มต้นขึ้น ภาระใจอันแรงกล้าที่กระตุ้นผู้บุกเบิกค่ายฝคร. คือความปรารถนาที่อยากให้คนหนุ่มสาวรู้จักพระคัมภีร์

เปาโลมีภาระใจในทำนองเดียวกันต่อทิโมธีคนหนุ่มซึ่งอยู่ในการดูแลของท่าน โดยกล่าวว่า “พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า” และเตรียมเราให้ “พรักพร้อมที่จะกระทำการดีทุกอย่าง” (2 ทธ.3:16-17) แต่นี่ไม่ใช่แค่คำแนะนำอย่างใจดีว่า “เป็นการดีที่เราจะอ่านพระคัมภีร์” คำแนะนำของเปาโลนี้อยู่ต่อจากคำเตือนที่น่ากลัวว่า “ในสมัยจะสิ้นยุคนั้น จะเกิดเหตุการณ์กลียุค” (ข้อ 1) และมีผู้สอนเท็จที่ทำให้ “ไม่อาจที่จะเข้าถึงหลักความจริงได้เลย” (ข้อ 7) จึงจำเป็นที่เราจะต้องปกป้องตนเองด้วยพระคัมภีร์ เพราะพระคัมภีร์ทำให้เราซึมซับความรู้ในเรื่องพระผู้ช่วยให้รอด ซึ่งทำให้เรา “มีปัญญา ที่จะมาถึงความรอดได้โดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์” (ข้อ 15 TNCV)

การศึกษาพระคัมภีร์ไม่ได้มีไว้สำหรับเด็กเท่านั้น แต่สำหรับผู้ใหญ่ด้วย และไม่ใช่สำหรับฤดูร้อนเท่านั้น แต่สำหรับทุกวัน เปาโลเขียนถึงทิโมธีว่า “ตั้งแต่เด็กมาแล้ว ที่ท่านได้รู้พระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์” (ข้อ 15) และไม่เคยสายเกินไปที่จะเริ่มต้น ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงใดของชีวิต สติปัญญาในพระคัมภีร์จะเชื่อมโยงเรากับพระเยซู นี่คือบทเรียน ฝคร.ของพระเจ้าสำหรับเราทุกคน