“พวกเขาเรียกผมว่า ‘เจ้าแห่งแหวน’ จนในปีนี้ผมได้พบแหวนที่หายไป 167 วงแล้ว” ระหว่างที่ผมเดินเล่นบนชายหาดกับคารี่ภรรยา เราหยุดพูดคุยกับชายสูงอายุที่ใช้เครื่องตรวจจับโลหะเพื่อสแกนบริเวณชายหาดใต้แนวคลื่น “บางครั้งก็มีชื่ออยู่ที่แหวน” เขาอธิบาย “และผมชอบที่ได้เห็นหน้าเจ้าของตอนที่ผมส่งแหวนคืน ผมจะโพสต์แจ้งไว้ในช่องทางออนไลน์และตรวจดูว่ามีใครติดต่อแผนกของหายไหม หลายปีมานี้ผมได้พบแหวนหลายวงที่หายไป” เมื่อเราเอ่ยว่า ผมก็ชอบที่จะตรวจจับโลหะเช่นกันแต่ไม่ได้ทำบ่อยนัก คำพูดของเขาขณะจากกันคือ “คุณไม่มีทางรู้ จนกว่าคุณจะออกไป!”

เราพบ “การค้นหาและการช่วยกู้” อีกแบบหนึ่งในลูกาบทที่ 15 พระเยซูทรงถูกวิจารณ์เรื่องการเอาใจใส่คนบาปที่ห่างไกลพระเจ้า (ข้อ 1-2) เพื่อตอบสนองคำพูดนั้น พระองค์ตรัสสามเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่หายไปและได้พบอีก คือ แกะเงินเหรียญและบุตรชาย ชายที่พบแกะที่หายไปนั้น “ก็ยกขึ้นใส่บ่าแบกมาด้วยความเปรมปรีดิ์ เมื่อถึงบ้านแล้ว จึงเชิญพวกมิตรสหายและเพื่อนบ้านให้มาพร้อมกัน พูดกับเขาว่า ‘จงเปรมปรีดิ์กับข้าพเจ้าเถิด’ ” (ลก.15:5-6) จุดสูงสุดของเรื่องราวทั้งหมดคือ การได้ค้นพบคนที่หลงหายไปเพื่อพระคริสต์ และความปีติยินดีที่เกิดขึ้นเพราะได้พบกับพวกเขาในพระองค์

พระเยซูเสด็จมา “เพื่อจะเที่ยวหาและช่วยผู้ที่หลงหายไปนั้นให้รอด” (19:10) และพระองค์ทรงเรียกเราให้ติดตามพระองค์โดยรักคนทั้งหลายที่กลับมาหาพระเจ้า (มธ.28:19) ความชื่นชมยินดีที่ได้เห็นผู้อื่นกลับใจมาหาพระองค์นั้นรอคอยเราอยู่ เราจะไม่มีทางรู้จนกว่าเราจะออกไป