ในโพสต์ล่าสุด บอนนี่ เกรย์ผู้เขียนบล็อกเกอร์เล่าถึงช่วงเวลาที่ความเศร้าอย่างท่วมท้นเริ่มคืบคลานเข้ามาในใจของเธอ “โดยไม่มีอะไรเตือน” เธอกล่าว “ในช่วงที่ชีวิตของฉันมีความสุขที่สุด…จู่ๆฉันก็เริ่มประสบกับความตื่นกลัวเสียขวัญและภาวะซึมเศร้าอย่างฉับพลัน” เกรย์พยายามหาวิธีต่างๆที่จะจัดการกับความเจ็บปวดของเธอ แต่ไม่ช้าเธอก็รู้ตัวว่าไม่เข้มแข็งพอที่จะรับมือกับมันเพียงลำพัง “ฉันไม่ต้องการให้ใครสงสัยเรื่องความเชื่อของฉัน ฉันจึงเก็บเงียบและอธิษฐานขอให้อาการซึมเศร้าของฉันหมดไป แต่พระเจ้าทรงต้องการรักษาเรา ไม่ใช่ทำให้เราอับอายหรือให้เราซ่อนตัวจากความเจ็บปวด” เกรย์ได้พบการเยียวยารักษาภายใต้การทรงสถิตของพระองค์ซึ่งปลอบโยนจิตใจ พระองค์ทรงเป็นสมอที่ยึดเธอไว้ท่ามกลางคลื่นลมที่ถาโถม

เมื่อเราตกต่ำและเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง พระเจ้าทรงอยู่ที่นั่นด้วยและจะทรงค้ำจุนเราด้วยเช่นกัน ในสดุดี 18 ดาวิดสรรเสริญพระเจ้าที่ทรงช่วยท่านให้พ้นจากความตกต่ำหลังจากเกือบพ่ายแพ้ต่อศัตรู ท่านประกาศว่า “[พระเจ้า] ทรงเอื้อมมาจากที่สูงทรงจับข้าพเจ้า พระองค์ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากน้ำอันมากหลาย” (ข้อ 16) แม้ในช่วงเวลาที่ดูเหมือนความสิ้นหวังจะกลืนกินเราราวกับคลื่นที่ถาโถมในมหาสมุทร แต่พระเจ้าทรงรักเรามากจนกระทั่งทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาช่วยเหลือเรา เพื่อนำเราไปสู่ ​​“ที่กว้างใหญ่” แห่งความสงบและความปลอดภัย (ข้อ 19) ให้เรามองดูพระองค์ผู้ทรงเป็นที่ลี้ภัยของเราในยามที่เรารู้สึกท่วมท้นไปด้วยอุปสรรคต่างๆของชีวิต