ขณะขับรถพาเราไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย สามีของฉันสังเกตว่าระบบนำทางของจีพีเอสจู่ๆก็ดูผิดปกติไป หลังจากที่เราขับเข้าไปบนทางหลวงสี่เลนที่ดูน่าจะถูกต้อง เราถูกนําทางให้ขับออกไปวิ่งบนถนนเลนเดียว ซึ่งเป็น “ถนนสายรอง” ขนานกับทางหลวง “ผมก็แค่เชื่อมัน” แดนกล่าวโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องความล่าช้าใดๆ แต่หลังจากผ่านไปประมาณ 16 กม. การจราจรบนทางหลวงที่อยู่ข้างๆ เราชะลอตัวจนเกือบจะหยุดนิ่ง เพราะมีการก่อสร้างใหญ่ แล้วถนนสายรองล่ะ ด้วยการจราจรที่บางเบากว่าทำให้ทางโล่งไปถึงจุดหมายของเรา “ผมไม่สามารถเห็นทางข้างหน้าได้” แดนกล่าว “แต่จีพีเอสมองเห็น” หรือเหมือนที่เราเห็นตรงกันว่า “พระเจ้าทรงมองเห็นเช่นกัน”

เมื่อพระเจ้าทรงรู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร พระองค์ทรงเปลี่ยนเส้นทางผ่านความฝันแก่พวกโหราจารย์ผู้ซึ่งมาจากทิศตะวันออกเพื่อนมัสการพระเยซู “ผู้บังเกิดมาเป็นกษัตริย์ของชนชาติ” (มธ.2:2) กษัตริย์เฮโรดเป็นกังวลกับข่าวเรื่องกษัตริย์ “คู่แข่ง” พระองค์จึงลวงพวกโหราจารย์ให้ไปยังบ้านเบธเลเฮมโดยสั่งว่า “จงไปค้นหากุมารนั้นเถิด เมื่อพบแล้วจงกลับมาแจ้งแก่เรา เพื่อเราจะได้ไปนมัสการท่านด้วย” (ข้อ 8) ด้วยคำเตือนในความฝัน “มิให้กลับไปเฝ้าเฮโรด” ดังนั้น “เขาจึงกลับไปยังเมืองของตนทางอื่น” (ข้อ 12)

พระเจ้าจะทรงนำย่างเท้าของเราเช่นกัน เมื่อเราเดินบนทางหลวงแห่งชีวิต เราไว้วางใจได้ว่าพระองค์ทรงเห็นเหตุการณ์ภายหน้าและยังคงมั่นใจได้ว่า “พระองค์จะทรงกระทำให้วิถี[ของเรา]ราบรื่น” เมื่อเรายอมรับการทรงนำของพระองค์ (สภษ.3:6)