ไก่งวงป่าสองตัวยืนอยู่บนทางวิ่งข้างหน้า ผมสงสัยว่า ผมจะเข้าใกล้ได้แค่ไหน ผมวิ่งช้าลงจนกลายเป็นเดินแล้วก็หยุด มันได้ผล ไก่งวงเดินเข้ามาหาผม…ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในไม่กี่วินาทีพวกมันจิกเข้าที่เอวและหลังของผม จะงอยปากเหล่านั้นคมทีเดียว ผมวิ่งหนี พวกมันวิ่งเตาะแตะตามมาก่อนที่จะหยุดไป

สถานการณ์กลับตาลปัตรอย่างรวดเร็ว! ผู้ถูกล่ากลายเป็นผู้ล่าเมื่อไก่งวงเหล่านั้นฉวยโอกาสเริ่มก่อน ผมนึกสงสัยอย่างโง่เขลาว่าพวกมันคงทึ่มเกินกว่าที่จะกลัวผม ผมเกือบจะโดนไก่ทำร้ายโดยไม่ทันระวัง ผมจึงหนี…จากไก่งวง

ดาวิดดูไม่น่าเป็นอันตราย โกลิอัทจึงยั่วยุท่านให้เข้ามาใกล้ “มาหาข้านี่ ข้าจะเอาเนื้อของเจ้าให้นกในอากาศกับสัตว์ในทุ่งกิน” (1 ซมอ.17:44) ดาวิดพลิกบทบาทเมื่อท่านฉวยโอกาสเริ่มก่อน ท่านวิ่งไปหาโกลิอัท ไม่ใช่เพราะว่าโง่เขลาแต่เพราะเชื่อมั่นในพระเจ้า ท่านตะโกนว่า “และในวันนี้…ทั้งพิภพจะทราบว่ามีพระเจ้าพระองค์หนึ่งในอิสราเอล” (ข้อ 46) โกลิอัทรู้สึกงงงวยกับเด็กหนุ่มที่เข้าจู่โจมคนนี้ เขาคงคิดว่า นี่เกิดอะไรขึ้น ในเวลานั้นก้อนหินก็พุ่งมาปะทะเข้าที่ตรงกลางหน้าผาก

เป็นธรรมชาติของสัตว์ขนาดเล็กที่จะวิ่งหนีผู้คนและผู้เลี้ยงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่มีขนาดมหึมา และเป็นเรื่องธรรมชาติที่เราจะซ่อนตัวจากปัญหาของเรา แล้วทำไมเราจึงยอมที่จะเป็นไปตามวิถีธรรมชาติล่ะ มีพระเจ้าในอิสราเอลใช่ไหม ถ้าเช่นนั้น จงวิ่งเข้าสู่การต่อสู้ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์