คล็อดเติบโตมาในบ้านที่มีแต่ความวุ่นวายทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน เขาเริ่มขายกัญชาตอนอายุ 15 และเฮโรอีนเมื่ออายุ 25 ปี เขามาเป็นที่ปรึกษาให้กับคนหนุ่มสาวเพื่อต้องการปกปิดสิ่งที่เขาทำ ไม่นานเขาเกิดรู้สึกประทับใจในตัวผู้จัดการซึ่งเชื่อในพระเยซูและอยากรู้เรื่องพระองค์มากขึ้น หลังจากเข้าร่วมหลักสูตรสำรวจความเชื่อคริสเตียน เขา “ท้า” ให้พระคริสต์เข้ามาในชีวิต “ผมรู้สึกได้ถึงการทรงสถิตอันอบอุ่น” เขาเล่า “ผู้คนเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวผมทันที ผมเป็นพ่อค้ายาที่มีความสุขที่สุดในโลก!”

พระเยซูไม่ทรงหยุดเพียงแค่นั้น รุ่งขึ้นเมื่อคล็อดชั่งน้ำหนักถุงโคเคน เขาคิดว่า นี่มันบ้าไปแล้ว ผมกำลังวางยาพิษผู้คน! เขาตระหนักว่าเขาต้องหยุดค้ายาและหางานทำ ด้วยความช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขาปิดโทรศัพท์และไม่หวนกลับไปค้ายาอีกเลย

การเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้คือสิ่งที่อัครทูตเปาโลกล่าวเมื่อเขียนถึงคริสต-จักรเมืองเอเฟซัส ท่านเรียกร้องให้พวกเขาดำเนินชีวิตที่ไม่แยกจากพระเจ้า โดยหนุนใจให้ “ทิ้งตัวเก่า…ซึ่งคู่กับวิถีชีวิตเดิมนั้นเสีย อันจะเสื่อมเสียไปสู่ความตายตามตัณหาอันเป็นที่หลอกลวง” และ “สวมสภาพใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้าในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง” (อฟ.4:22, 24) คำกริยาที่เปาโลใช้หมายความว่าเราต้องสวมสภาพใหม่อยู่เสมอ

พระวิญญาณบริสุทธิ์ยินดีที่จะช่วยเราเหมือนที่ช่วยคล็อด เพื่อเราจะดำเนินชีวิตซึ่งสวมสภาพใหม่และเป็นเหมือนพระเยซูมากขึ้น