เมื่อลูกสาวของฉันได้ปูเลี้ยงสองตัวเป็นของขวัญ เธอใส่ทรายในตู้กระจกเพื่อมันจะได้ขุดและปีนป่าย เธอเตรียมน้ำ โปรตีน และเศษผักสำหรับเป็นอาหารเย็นของพวกมัน พวกมันดูมีความสุขดี จึงเป็นเรื่องน่าตกใจเมื่อวันหนึ่งพวกมันหายไป เราค้นหาไปทุกที่ ในที่สุดเราก็รู้ว่าพวกมันอยู่ใต้ทราย และจะอยู่อย่างนั้นประมาณสองเดือนเพื่อลอกคราบ

สองเดือนผ่านไป และอีกเดือนก็ผ่านไป ฉันเริ่มกังวลว่าพวกมันจะตาย ยิ่งเรารอนานฉันก็ยิ่งหมดความอดทน และในที่สุดเราก็มองเห็นสัญญาณของการมีชีวิต และเจ้าปูก็ออกมาจากทราย

ฉันสงสัยว่าชนชาติอิสราเอลคงสงสัยในคำเผยพระวจนะที่พระเจ้าตรัสกับพวกเขาว่าจะสำเร็จเป็นจริงได้อย่างไรในตอนที่พวกเขาเป็นทาสอยู่บาบิโลน พวกเขารู้สึกสิ้นหวังหรือเปล่า พวกเขากังวลว่าจะอยู่ที่นั่นไปตลอดหรือไม่ พระเจ้าตรัสผ่านเยเรมีย์ว่า “เราจะเยี่ยมเยียนเจ้าและจะให้คำสัญญาของเรา สำเร็จเพื่อเจ้าและจะนำเจ้ากลับมาสู่ (เยรูซาเล็ม)” (ยรม.29:10) แน่นอนว่าในอีก 70 ปีให้หลังพระเจ้าทรงให้กษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียอนุญาตให้ชาวยิวกลับสู่เยรูซาเล็มและสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ (อสร.1:1-4)

ในฤดูกาลแห่งการรอคอยที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้น พระเจ้าไม่ได้ทรงลืมเรา ขณะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยให้เราพัฒนาความอดทน เรารู้ได้ว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้ประทานความหวัง ผู้รักษาสัญญา และผู้เดียวที่ทรงควบคุมอนาคต