ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนของฤดูใบไม้ผลิปี 2020 นักเล่นกระดานโต้คลื่นได้โต้คลื่นที่เรืองแสงไปตามชายฝั่งของเมืองซานดิเอโก การแสดงแสงสีเหล่านี้เกิดจากสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เรียกว่าแพลงก์ตอนพืช ซึ่งมาจากคำภาษากรีกที่แปลว่า “คนเร่ร่อน” หรือ “คนพเนจร” ในช่วงกลางวันสิ่งมีชีวิตชนิดนี้จะทำให้กระแสน้ำเป็นสีแดง และมันจะดูดจับแสงอาทิตย์และเปลี่ยนให้เป็นพลังงานเคมี เมื่อถูกรบกวนในความมืดมันจะสร้างแสงสีน้ำเงินขึ้น

ผู้เชื่อในพระเยซูเป็นพลเมืองสวรรค์ ซึ่งเหมือนกับสาหร่ายสีแดง คือใช้ชีวิตเหมือนคนที่ร่อนเร่พเนจรไปในโลก เมื่อสถานการณ์ที่ยากลำบากเข้ามากระทบแผนที่วางไว้ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะประทานอำนาจให้เราตอบสนองเช่นเดียวกับพระเยซูผู้เป็นแสงสว่างของโลก เพื่อเราจะสะท้อนพระลักษณะของพระองค์ที่ส่องสว่างท่ามกลางความมืด ตามที่อัครทูตเปาโลกล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดมีค่าไปกว่าความสนิทสนมที่เรามีกับพระคริสต์และความชอบธรรมที่ได้มาโดยความเชื่อในพระองค์ (ฟป.3:8-9) ชีวิตของเปาโลพิสูจน์ให้เห็นว่าการรู้จักพระเยซูและฤทธิ์อำนาจแห่งการฟื้นคืนพระชนม์นั้นจะเปลี่ยนแปลงเรา และส่งผลต่อวิธีการดำเนินชีวิตและการตอบสนองของเราเมื่อมีการทดลองเข้ามา (ข้อ 10-16)

เมื่อเราใช้เวลากับพระบุตรของพระเจ้าทุกวัน พระวิญญาณบริสุทธิ์จะประทานความจริงที่จำเป็นให้กับเรา เพื่อเราจะเผชิญความท้าทายทุกอย่างในโลกนี้ได้ด้วยท่าทีที่สะท้อนถึงพระลักษณะของพระคริสต์ (ข้อ 17-21) เราสามารถเป็นไฟนำทางแห่งความรักและความหวังของพระเจ้าที่ตัดผ่านความมืด จนถึงวันที่พระองค์ทรงเรียกเรากลับบ้านหรือวันที่ทรงเสด็จกลับมาอีกครั้ง