ในปี 1799 คอนราด รี้ด ในวัยสิบสองขวบพบก้อนหินขนาดใหญ่ส่องประกายระยิบระยับในลำธารที่ไหลผ่านฟาร์มเล็กๆของครอบครัวเขาในนอร์ทแคโรไลน่า เขานำมันกลับมาบ้านให้พ่อซึ่งเป็นชาวนาอพยพที่ยากจนดู พ่อไม่รู้ค่าของหินนั้นและใช้มันเป็นที่ดันประตู พวกเขาเดินผ่านหินก้อนนั้นไปมาอยู่หลายปี

ต่อมา ก้อนหินของคอนราดซึ่งแท้จริงแล้วเป็นก้อนทองคำหนักกว่าเจ็ดกิโลกรัมไปสะดุดตาช่างทำอัญมณีท้องถิ่นเข้า หลังจากนั้นไม่นานครอบครัวรี้ดจึงร่ำรวยขึ้น และที่ดินของพวกเขากลายเป็นแหล่งขุดทองแห่งแรกในยุคตื่นทองของสหรัฐอเมริกา

บางครั้งเราเดินเลยผ่านพระพรไปเพราะจดจ่ออยู่กับแผนการและวิธีการของเราเอง พระเจ้าทรงประกาศอิสรภาพแก่อิสราเอลอีกครั้งหนึ่งหลังจากพวกเขาถูกเนรเทศให้ไปบาบิโลนเพราะไม่เชื่อฟังพระองค์ พระองค์ยังเตือนด้วยว่าพวกเขาพลาดอะไรไป ทรงตรัสว่า “เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ผู้สั่งสอนเจ้าเพื่อประโยชน์ของเจ้า ผู้นำเจ้าในทางที่ควรเจ้าจะไป โอ ถ้าเจ้าได้เชื่อฟังบัญญัติของเราแล้ว ความสุขสมบูรณ์ของเจ้าจะเป็นเหมือนแม่น้ำ และความชอบธรรมของเจ้าจะเป็นเหมือนคลื่นทะเล” จากนั้นพระเจ้าทรงหนุนน้ำใจให้พวกเขาติดตามพระองค์ออกจากวิถีแบบเก่าสู่ชีวิตใหม่ว่า “จงไปเสียจากบาบิโลน…จงประกาศข้อนี้ด้วยโห่ร้องชื่นบาน” (อสย.48:17-18, 20)

การออกจากบาบิโลน ทั้งในสมัยก่อนและอาจจะในสมัยนี้นั้นหมายถึงการออกจากวิถีแห่งบาป และ “กลับบ้าน” มาหาพระเจ้าผู้ทรงปรารถนากระทำสิ่งดีเพื่อเรา ถ้าเราเชื่อฟังและติดตามพระองค์