ลีอากำลังจะเริ่มทำงานเป็นพยาบาลในประเทศไต้หวัน เธอจะสามารถส่งเสียครอบครัวได้ดีกว่าการอยู่ในกรุงมะนิลาที่โอกาสด้านการงานมีอยู่อย่างจำกัด ในคืนก่อนออกเดินทาง เธอบอกวิธีการกับพี่สาวซึ่งจะเป็นคนดูแลลูกสาววัยห้าขวบของเธอว่า “เขาจะยอมกินวิตามิน ถ้าเอาเนยถั่วหนึ่งช้อนให้เขากินด้วย” ลีอาอธิบายว่า “อย่าลืมว่าเขาเป็นเด็กขี้อาย อีกหน่อยเขาจะค่อยๆกล้าเล่นกับลูกพี่ลูกน้องเอง และเขากลัวความมืด…”

วันรุ่งขึ้นขณะมองออกไปนอกหน้าต่างเครื่องบิน ลีอาอธิษฐานว่า ข้าแต่พระเจ้า ไม่มีใครู้จักลูกสาวของข้าพระองค์ดีเหมือนข้าพระองค์ ข้าพระองค์อยู่กับลูกไม่ได้ แต่พระองค์ทรงทำได้

เรารู้จักคนที่เรารัก และเราสังเกตรายละเอียดทุกอย่างของพวกเขาเพราะพวกเขามีค่าสำหรับเรา เมื่อเราไม่สามารถอยู่กับพวกเขาได้เพราะสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย เรามักจะวิตกว่าเมื่อไม่มีใครรู้จักเขาดีเท่าเรา พวกเขาอาจตกอยู่ในอันตรายได้ง่ายกว่า

ในพระธรรมสดุดี 139 ดาวิดเตือนเราว่าพระเจ้าทรงรู้จักเราดีกว่าใคร และทรงรู้จักคนที่เรารักเป็นอย่างดีด้วย (ข้อ 1-4) พระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้สร้างของพวกเขา (ข้อ 13-15) พระองค์จึงทรงเข้าใจในความต้องการทุกอย่างที่พวกเขามี พระองค์ทรงรู้ว่าในแต่ละวันจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของพวกเขา (ข้อ 16) พระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วยและจะไม่มีวันทอดทิ้งพวกเขา (ข้อ 5, 7-10)

เมื่อคุณกังวลถึงใคร จงฝากเขาไว้กับพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงรู้จักคนเหล่านั้นดีที่สุด และรักพวกเขามากที่สุด