เอมอสเป็นคนชอบแสดงออกที่เอาแต่ใจ ขณะที่แดนนี่เป็นคนเก็บตัวที่ชอบสงสัยในตัวเอง แต่อัจฉริยะที่แปลกประหลาดทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนรักกัน พวกเขาใช้เวลาสิบปีหัวเราะและเรียนรู้ร่วมกัน วันหนึ่งผลงานของพวกเขาอาจได้รับรางวัลโนเบล แต่แดนนี่เบื่อหน่ายกับการยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของเอมอส และบอกกับเขาว่าพวกเขาไม่เป็นเพื่อนกันอีกต่อไป

สามวันต่อมาเอมอสโทรไปบอกข่าวร้าย หมอตรวจพบมะเร็งและบอกเขาว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงหกเดือน แดนนี่หัวใจแตกสลาย “เราเป็นเพื่อนกัน” เขาพูด “ไม่ว่านายจะคิดยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกัน”

เปาโลเป็นคนมีนิมิตที่ดื้อรั้น ขณะที่บารนาบัสเป็นผู้หนุนน้ำใจที่มีจิตใจอ่อนโยน พระวิญญาณนำพวกเขามาทำงานร่วมกัน และส่งพวกเขาให้ออกเดินทางเพื่อไปประกาศ (กจ.13:2-3) พวกเขาเทศนาและก่อตั้งคริสตจักร จนกระทั่งมาขัดแย้งกันในเรื่องที่มาระโกละทิ้งหน้าที่ไป บารนาบัสอยากจะให้โอกาสมาระโกอีกครั้ง แต่เปาโลบอกว่าท่านไม่สามารถเชื่อใจมาระโกได้อีกแล้ว พวกเขาจึงต้องแยกจากกัน (15:36-41)

ในที่สุดเปาโลยกโทษให้มาระโก ท่านลงท้ายจดหมายสามฉบับด้วยคำทักทายหรือคำชมเชยในตัวเขา (คส.4:10; 2 ทธ.4:11; ฟม.1:24) เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบารนาบัส ท่านมีชีวิตยืนยาวจนได้คืนดีกับเปาโลไหม ผมก็หวังเช่นนั้น

วันนี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใด จงพยายามสานสัมพันธ์กับคนที่คุณเคยขัดแย้ง นี่เป็นเวลาที่จะแสดงและบอกพวกเขาว่าคุณรักพวกเขามากเพียงไร