แดนกำลังขี่จักรยานยนต์อยู่ในตอนที่รถคันหนึ่งขับเบี่ยงเข้ามาในเลนและดันเขาออกไปหารถที่วิ่งสวนมา สองสัปดาห์ต่อมาเขาฟื้นขึ้นในศูนย์อุบัติเหตุด้วยสภาพ “ยับเยิน” ที่เลวร้ายที่สุดคือเขาบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังซึ่งทำให้ขาเป็นอัมพาต แดนอธิษฐานขอการรักษาแต่มันไม่เกิดขึ้น กระนั้นเขาเชื่อว่าพระเจ้าทรงสอนเขาด้วยพระเมตตาว่า “วัตถุประสงค์ของชีวิตนี้คือเราจะได้รับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นเหมือนพระคริสต์ น่าเสียดายที่มันไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อทุกอย่างเพียบพร้อมและสวยหรู แต่…เกิดขึ้นเมื่อชีวิตลำบากแสนเข็ญ เมื่อเราถูกบีบให้พึ่งพาพระเจ้าผ่านการอธิษฐานเพียงเพื่อให้ผ่านไปในแต่ละวัน”

อัครทูตเปาโลอธิบายถึงข้อดีสองประการของการยืนหยัดอยู่ข้างพระเจ้า คือความอดทนและการชื่นชมยินดีในความทุกข์ยาก (รม.5:3-4) ทั้งสองข้อนี้ไม่ได้บอกให้อดทนต่อความทุกข์ยากด้วยการยอมอดกลั้น หรือค้นพบความสุขในความเจ็บปวด แต่เป็นการเชิญชวนให้ไว้วางใจในพระเจ้าอย่างไม่หวั่นไหว ความทุกข์ยากที่มีพระคริสต์ทำให้เกิด “ความอดทน และความอดทนทำให้เห็นว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้ และการที่เราเห็นเช่นนั้นทำให้เกิดมีความหวังใจ” (ข้อ 3-4) ทั้งหมดนี้มาจากความเชื่อว่าพระบิดาจะไม่ทรงทอดทิ้งเรา แต่จะทรงดำเนินไปกับเราผ่านเปลวไฟไปสู่อนาคต

พระเจ้าทรงมาพบเราในความทุกข์ยากและช่วยให้เราเติบโตในพระองค์ แทนที่จะมองว่าความทุกข์ยากคือการที่พระเจ้าไม่พอพระทัย ให้เรามองว่าเป็นวิธีที่ทรงใช้เพื่อขัดเกลาและสร้างเรา เมื่อเราได้สัมผัสความรักของพระองค์ที่ “หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา” (ข้อ 5)