เราถึงหรือยัง / ยัง / เราถึงหรือยัง / ยัง นั่นเป็นชื่อเกมถามมาตอบไปที่เราเล่นในการเดินทางไกลครั้งแรก (และแน่นอน ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย) เป็นเวลาสิบหกชั่วโมงจากโคโลราโดเพื่อกลับบ้านที่อาร์คันซอในตอนที่ลูกของเรายังเล็ก ลูกสองคนแรกของเราคอยเล่นเกมนี้ตลอด และถ้าผมเก็บเงินหนึ่งเหรียญทุกครั้งที่พวกเขาถาม ผมคงมีเงินเป็นตั้ง มันเป็นคำถามที่ลูกหยุดถามไม่ได้เลย แต่ผม (คนขับรถ) ก็อดสงสัยไม่ได้เช่นกันว่าเราถึงหรือยัง และคำตอบก็คือยัง แต่อีกไม่นาน

ความจริงก็คือ ผู้ใหญ่ส่วนมากก็ถามคำถามนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน ถึงแม้เราจะไม่ได้พูดออกมาดังๆ แต่เราต่างถามคำถามนั้นด้วยเหตุผลเดียวกันคือ เราเหนื่อย และตาของเรา “ทรุดโทรมไปเพราะความทุกข์ใจ” (สดด.6:7) เรา “อ่อนเปลี้ยด้วยการคร่ำครวญ” (ข้อ 6) กับทุกอย่างตั้งแต่ข่าวภาคค่ำ ไปจนถึงความหงุดหงิดในที่ทำงาน ปัญหาสุขภาพที่ไม่จบสิ้น ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด และอื่นๆอีกมากมาย เราร้องว่า “เราถึงกันหรือยัง ข้าแต่พระเจ้า อีกนานสักเท่าใด”

ผู้เขียนสดุดีรู้จักความอ่อนเปลี้ยเช่นนั้นดี และได้ถามคำถามสำคัญนี้กับพระเจ้าตรงๆ พระเจ้าทรงเป็นเหมือนพ่อแม่ที่ห่วงใย ทรงฟังคำวิงวอนของดาวิด และทรงรับคำอธิษฐานของท่านด้วยพระกรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ (ข้อ 9) ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะตั้งคำถาม คุณและผมก็เช่นกันที่เข้ามาหาพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ได้อย่างกล้าหาญ พร้อมกับคำถามจากใจจริงว่า “อีกนานสักเท่าใด” และคำตอบของพระองค์ก็คงจะเป็น “ยัง แต่อีกไม่นาน เราประเสริฐ จงวางใจในเรา”