เมื่อคอนเนอร์และซาร่า สมิธย้ายบ้านไกลออกไปราว 8 กิโลเมตรบนถนนเดิม เจ้าสมอร์แมวของพวกเขาแสดงความไม่พอใจโดยการวิ่งหนีไป วันหนึ่งซาร่าเห็นรูปภาพในปัจจุบันของโรงนาเก่าของพวกเขาบนสื่อสังคมออนไลน์ สมอร์อยู่ในรูปด้วย!

ครอบครัวสมิธจึงไปรับแมวด้วยความดีใจ สมอร์วิ่งหนีไปอีก ลองเดาสิว่ามันไปที่ไหน ครั้งนี้ครอบครัวที่ซื้อบ้านต่อจากพวกเขาตกลงรับเลี้ยงสมอร์ด้วย ครอบครัวสมิธไม่สามารถหยุดสถานการณ์เช่นนี้ได้เพราะสมอร์จะกลับ “บ้าน”​ เสมอ

เนหะมีย์รับใช้ในตำแหน่งสูงที่ราชสำนักของกษัตริย์เมืองสุสา แต่จิตใจของท่านอยู่ที่อื่น ท่านเพิ่งได้ยินข่าวน่าเศร้าถึงสภาพของ “เมืองสถานที่ฝังศพของบรรพบุรุษของข้าพระบาท” (นหม.2:3) ท่านจึงอธิษฐาน “ขอพระองค์ทรงระลึกถึงพระวจนะซึ่งพระองค์ได้บัญชาไว้กับโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ว่า… ‘ถ้าเจ้ากลับมาหาเราและรักษาบัญญัติของเรา… ถึงแม้ว่าพวกเจ้ากระจัดกระจายไปอยู่ใต้ฟ้าที่ไกลที่สุด เราจะรวบรวมเจ้ามาจากที่นั่น และนำเจ้ามายังสถานที่ซึ่งเราได้เลือกไว้ เพื่อกระทำให้นามของเรา ดำรงอยู่ที่นั่น’” (1:8-9)

มีคำกล่าวไว้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน หัวใจเราก็อยู่ที่นั่น สำหรับเนหะมีย์การโหยหาบ้านเป็นมากกว่าความผูกพันกับสถานที่ สิ่งที่ท่านโหยหามากที่สุดคือการสามัคคีธรรมกับพระเจ้า เยรูซาเล็มคือ “สถานที่ซึ่งเราได้เลือกไว้ เพื่อกระทำให้นามของเรา ดำรงอยู่ที่นั่น”

ความไม่อิ่มใจที่เรารู้สึกได้ลึกๆภายในแท้จริงแล้วเป็นความโหยหาพระเจ้า เราโหยหาความอบอุ่นใจที่จะได้อยู่กับพระองค์