ดีพิก้าแบกรับความรู้สึกผิดตลอดเวลาหลายปีในเรื่องที่เธอเคยปฏิบัติต่อน้องสาวตอนที่พวกเธอยังเด็ก ถึงแม้ว่าเธอจะขอโทษ และน้องก็ให้อภัยเธอแล้ว แต่เธอยังคงรู้สึกผิด

อิสยาห์ 6:1-5 บันทึกไว้ว่าอิสยาห์ได้เห็นนิมิตจากพระเจ้าและรู้สึกสำนึกในความผิดบาปของตน แต่เมื่อถ่านเพลิงจากแท่นบูชาสัมผัสที่ริมฝีปาก ท่านได้ยินคำว่า “กรรมชั่วของเจ้าก็ถูกยกเสีย” (ข้อ 7) ถ่านเพลิงจากแท่นบูชาในพระวิหารมักจะถูกรดด้วยเลือดของลูกแกะที่ถูกนำมาฆ่า ซึ่งเล็งถึงการสละพระชนม์ชีพของพระเยซู เมื่อพระเมษโปดกของพระเจ้าสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ความบาปและความผิดของเราก็ย้ายไปอยู่ที่พระองค์ (1 ปต.2:24)

เรามีความผิดเมื่อเราก่ออาชญากรรมหรือทำบาป ซึ่งสมควรจะถูกประณามและยังทำให้เกิดความรู้สึกผิดด้วย แม้คริสเตียนที่เข้มแข็งที่สุดก็ยังต้องต่อสู้กับความรู้สึกนี้เวลาที่เขาทำผิด

ความรู้สึกผิดจะมีประโยชน์เมื่อมันทำให้เราสำนึกและนำไปสู่การกลับใจ แต่การจมอยู่กับความรู้สึกผิดหลังจากที่ได้รับการยกโทษแล้วจะทำให้เราขาดอิสรภาพ ความจริงอันงดงามของพระกิตติคุณคือพระคริสต์ทรงชำระล้างความผิดบาปของเรา เราจึงสามารถเป็นไทจากภาระแห่งความรู้สึกผิดได้อย่างแท้จริง ให้เราชื่นชมยินดีที่โดยพระเยซู เราไม่ต้องรู้สึกผิดหรือจมอยู่ในความละอายอีกต่อไป เราได้รับการอภัยโทษแล้ว!