เมื่อป้าของอับราฮัม เรเยส ได้รับหอยขนาดยักษ์เป็นของขวัญในปี 1959 เธอพบไข่มุกเม็ดใหญ่อยู่ข้างในแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เธอเก็บไข่มุกไว้ในบ้านที่ฟิลิปปินส์นานกว่า 60 ปี ก่อนจะยกเป็นมรดกให้อับราฮัม เมื่ออับราฮัมให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีตรวจสอบ พวกเขาตกใจที่พบว่าไข่มุกนั้นเป็นไข่มุกธรรมชาติฐานแบนเรียบที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีมูลค่ากว่า 60 ล้านดอลล่าร์!

อับราฮัมเรียกไข่มุกนั้นว่าไข่มุกยักษ์ คุณอาจกำลังคิดว่า “อับราฮัมช่างโชคดีที่มีของมีค่าเช่นนี้”

แต่ในฐานะคริสเตียน คุณเป็นเจ้าของสิ่งล้ำค่ายิ่งกว่านั้นมากนัก! 2 โครินธ์ 4:7 บอกว่า “เรามีของมีค่านี้อยู่ในภาชนะดิน เพื่อให้เห็นว่าฤทธิ์เดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้า ไม่ได้มาจากตัวเราเอง” ผู้เชื่อชาวโครินธ์มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจในอำนาจที่มองเห็นได้ เช่น ความร่ำรวย และการมีวาทศิลป์ เปาโลเตือนพวกเขาว่าฤทธิ์เดชของพวกเขามีแหล่งกำเนิดที่แท้จริงคือในพระกิตติคุณและการได้รู้จักพระเยซูในฐานะองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเขา ฤทธิ์เดชนี้ทำให้เราจำเริญขึ้นได้แม้ต้องประสบกับความยากลำบาก (ข้อ 9)

ในวันนี้ เราอาจเผชิญกับการข่มเหงและปัญหาเช่นเดียวกับชาวเมืองโครินธ์ แต่เราทั้งหลายรู้ว่าเรามีสิ่งล้ำค่าอยู่ภายในเรา ที่ทำให้เรามีกำลังที่จะผ่านไปได้ แล้วแบบนี้สิ่งที่เรามีไม่ได้มีค่ามากกว่าไข่มุกราคา 60 ล้านดอลล่าร์หรือ หรือแม้แต่ไข่มุกยักษ์ 60 ล้านเม็ดก็ตาม