“ความเกลียดชังกัดกร่อนภาชนะที่บรรจุ” เป็นคำพูดของอดีตวุฒิสมาชิก อลัน ซิมสัน ในงานศพของ จอร์ช เอช.ดับบลิว.บุช เขาเล่าว่าประธานาธิบดีคนที่ 41 ของสหรัฐซึ่งเป็นเพื่อนรักของเขาเป็นคนมีเมตตา และมีอารมณ์ขันและความรักมากกว่าความเกลียดชังทั้งในการเป็นผู้นำและในความสัมพันธ์ส่วนตัว

ฉันรู้ซึ้งในคำกล่าวนี้ ความเกลียดชังส่งผลร้ายกับ ฉัน เมื่อฉันเก็บงำมันเอาไว้งานวิจัยทางการแพทย์เปิดเผยว่า เมื่อเราจมอยู่กับความคิดแง่ลบหรือระเบิดอารมณ์โกรธ ผลเสียต่อร่างกายคือความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นแรง จิตวิญญาณห่อเหี่ยว ร่างกายถูกบั่นทอน

ในสุภาษิต 10:12 กษัตริย์ซาโลมอนบอกว่า “ความเกลียดชังเร้าให้เกิดความวิวาท แต่ความรักครอบงำบรรดาการทรยศเสีย” การวิวาทที่เกิดจากความเกลียดชังในที่นี้คือ ความพยาบาทถึงขั้นต้องการเอาชีวิตของคนต่างเผ่าพันธุ์ นำไปสู่ความอยากให้แก้แค้นจนคนที่ดูหมิ่นกันต่างก็ตัดขาดจากกันและกัน

แต่วิถีของพระเจ้านั้นตรงข้ามคือปกคลุมด้วยความรัก หรือยกโทษความผิดทุกอย่าง ไม่ได้หมายถึงการมองข้ามความผิดหรือให้มีสิทธิ์ทำผิด แต่เราจะไม่ตอกย้ำความผิดเมื่อคนนั้นสำนึกอย่างแท้จริง และถ้าเขาไม่เคยขอโทษ เราจะระบายความรู้สึกของเราต่อพระเจ้า พวกเราที่รู้จักพระเจ้าผู้ทรงเป็นความรักจะต้อง “รักซึ่งกันและกันให้มาก เพราะว่าความรักลบล้างความผิดมากมายได้” (1 ปต.4:8)