Month: ธันวาคม 2018

ผู้ส่งสาร

"มีข้อความถึงคุณค่ะ” ผู้หญิงซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในงานประชุมที่ฉันเข้าร่วมยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ ฉันคิดอยู่ว่าควรจะวิตกหรือตื่นเต้นดี แต่เมื่อเปิดอ่าน “คุณได้หลานชาย” ฉันก็รู้ว่าควรจะดีใจ

สิ่งใหม่ทั้งนั้น

ผมสนใจสุสานรถ ผมชอบทำงานเกี่ยวกับรถ จึงมักเดินไปที่สุสานรถใกล้บ้าน ซึ่งเงียบสงบลมเย็นสบาย เต็มไปด้วยซากรถที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสมบัติล้ำค่าของใครสักคน บางครั้งผมก็สะดุดตากับรถสักคัน และคิดสงสัยว่าตลอด “ช่วงชีวิต” มันผจญภัยอะไรมาบ้างราวกับประตูสู่อดีต รถแต่ละคันมีเรื่องราวเล่าขานถึงความทะเยอทะยานของมนุษย์ที่อยากได้รุ่นใหม่ล่าสุดกับกาลเวลาที่ผันผ่านซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยง

เมื่อพระเจ้าทรงปฏิเสธ

เมื่อผมถูกเกณฑ์ทหารตอนอายุ 18 ปี เหมือนชายหนุ่มสิงคโปร์ทั่วไป ผมอธิษฐานอย่างหมดใจให้ได้ตำแหน่งที่สบาย อย่างเสมียนหรือพลขับ ผมยังหวังว่าจะได้งดเว้นจากการฝึกต่อสู้ที่หนักหน่วง แต่เมื่อผมอ่านพระคัมภีร์ในคืนหนึ่ง ผมสะดุดกับข้อความหนึ่ง “การที่มีคุณของเราก็พอแก่เจ้าแล้ว...” (2 คร.12:9)

วันกำจัดทิ้ง

ตั้งแต่ปี 2006 คนกลุ่มหนึ่งได้ฉลองกิจกรรมที่น่าแปลกในช่วงปีใหม่ โดยเรียกมันว่าวันกำจัดทิ้ง ซึ่งมีที่มาจากประเพณีของลาตินอเมริกา โดยแต่ละคนจะเขียนสิ่งที่ไม่พอใจ ความทรงจำน่าอาย และเรื่องแย่ๆ ในปีที่ผ่านมา แล้วโยนลงในเครื่องทำลายเอกสาร บ้างก็ใช้ค้อนยักษ์ทำลายสิ่งของที่อยากกำจัดทิ้ง

ที่สูงสุด

สามีของฉันชวนเพื่อนไปคริสตจักร หลังเลิกนมัสการ เพื่อนของเขาพูดว่า “ผมชอบเพลงและบรรยากาศ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องยกย่องพระเยซูไว้สูงสุดด้วย” สามีของฉันจึงอธิบายให้เขาฟังว่า ชีวิตคริสเตียนคือความสัมพันธ์กับพระคริสต์ หากไม่มีพระองค์ การเป็นคริสเตียนก็ไร้ความหมายเป็นเพราะสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำในชีวิตเรา เราจึงมาพบกันและสรรเสริญพระองค์

วันหนึ่งเท่านั้นหรือ?

ในหนังสือ คริสต์มาสทุกวัน (Christmas Every Day) วิลเลียม ดีนฮาเวลส์ เล่าถึงเด็กหญิงคนหนึ่งที่ขอให้ทุกวันเป็นวันคริสต์มาส แต่ปีนั้นกลับเลวร้าย ทุกคนเริ่มเบื่อลูกกวาด ไก่งวงขาดแคลนและแพงขึ้น ของขวัญมีเหลือล้น ผู้รับไม่ซาบซึ้งแล้ว ผู้คนไม่เป็นมิตรต่อกัน

หิมะฤดูหนาว

ในฤดูหนาว ฉันมักตื่นขึ้นพบกับความประหลาดใจในความงามของโลกที่ปกคลุมด้วยสันติสุขและความสงบของหิมะยามเช้าตรู่ ไม่มีเสียงดังเหมือนพายุฤดูใบไม้ผลิที่ประกาศก้องยามค่ำคืน แต่หิมะมาเยือนอย่างเงียบๆ

จงใคร่ครวญ

ช่วงที่ออสวอลด์ แชมเบอรส์ สอนอยู่ที่สถาบันพระคริสตธรรมในลอนดอน (1911-1915) คำพูดของเขามักทำให้นักศึกษาประหลาดใจ หญิงสาวคนหนึ่งบรรยายว่า เมื่อถึงเวลาที่ให้อภิปราย นักศึกษามักตั้งคำถามหรือข้อโต้แย้งมากมาย เธอจำได้ว่า ออสวอลด์มักจะยิ้มและพูดว่า “พอแค่นี้ก่อน คุณจะเข้าใจเองภายหลัง” เขาหนุนใจให้นักศึกษาใคร่ครวญประเด็นนั้นๆ และยอมให้พระเจ้าเปิดเผยความจริงของพระองค์แก่พวกเขา

อุดมสมบูรณ์หรือทุกข์ยาก

หนังสือ ของขวัญพันชิ้น (One Thousand Gifts) ของแอน วอส-แคมป์ หนุนใจให้ผู้อ่านค้นดูว่าในชีวิตแต่ละวันพระเจ้าทรงทำสิ่งใดเพื่อพวกเขาบ้าง เธอบันทึกพระพรอันอุดมที่พระเจ้าประทานในแต่ละวันทั้งน้อยใหญ่ ตั้งแต่ฟองสีรุ้งสวยในอ่างล้างจานไปจนถึงความรอดอันหาค่ามิได้สำหรับคนบาปอย่างเธอ (และเราทุกคน) แอนยืนกรานว่าการขอบพระคุณคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราเห็นพระเจ้าแม้ในช่วงชีวิตที่เลวร้ายที่สุด

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา