ในวัฒนธรรมคลั่งไคล้คนมีชื่อเสียงในยุคนี้ ภาคธุรกิจทำการตลาดโดยใช้ “คนดังเป็นสินค้า ลูกค้าจ่ายเงินเพื่อจะได้ใช้เวลากับคนดัง” บทความในนิตยสารกล่าวว่า เพียงคุณจ่ายเงินหมื่นกว่าดอลล่าร์ คุณก็จะได้พบปะเป็นส่วนตัวกับคนที่มีชื่อเสียง

หลายคนปฏิบัติต่อพระเยซูเหมือนเป็นคนดัง เขาติดตามพระองค์ไปในที่ต่างๆ ได้ฟังคำสอนเฝ้าดูการอัศจรรย์ และแสวงหาการรักษาโรค แต่พระเยซูไม่เคยถือตัวหรือทำห่างเหิน แต่ทรงพร้อมสำหรับทุกคน เมื่อยากอบและยอห์นพยายามจะต่อรองเรื่องตำแหน่งในแผ่นดินของพระเจ้า พระเยซูเตือนสาวกของพระองค์ว่า “ถ้าผู้ใดใคร่จะได้เป็นใหญ่ในพวกท่าน ผู้นั้นจะต้องเป็นผู้ปรนนิบัติท่านทั้งหลาย และถ้าผู้ใดใคร่จะเป็นเอกเป็นต้น ผู้นั้นจะต้องเป็นทาสสมัครของคนทั้งปวง” (มก.10:43-44)

ไม่นานหลังจากที่พระเยซูตรัสถ้อยคำนี้ พระองค์และฝูงชนที่ติดตาม ได้พบขอทานตาบอด แล้วทรงถามว่า “เจ้าปรารถนาจะให้เราทำอะไรให้เจ้า” (ข้อ 51) “คนตาบอดนั้นทูลว่า พระอาจารย์เจ้าข้า ขอโปรดให้ตาข้าพระองค์เห็นได้” ในทันใดนั้นเขาก็มองเห็น และติดตามพระเยซูไป (ข้อ 52)

พระเจ้าของเรา “มิได้มาเพื่อรับการปรนนิบัติ แต่ท่านมาเพื่อจะปรนนิบัติเขา และประทานชีวิตของท่านให้เป็นค่าไถ่คนเป็นอันมาก” (ข้อ45) ให้เรามีใจเมตตาและพร้อมช่วยทุกคนเหมือนอย่างพระองค์