เช้าวันนั้นในห้องที่ฉันช่วยอยู่ที่โบสถ์วุ่นวายมาก เด็กเล็ก 10-12 คนพูดคุยและวิ่งเล่นกัน ความอลหม่านทำให้ห้องเริ่มร้อน ฉันจึงเปิดประตูออก เด็กชายคนหนึ่งเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่จะหนีออกไปได้ ดังนั้นเมื่อคิดว่าไม่มีใครเห็น เขาจึงย่องออกไปทางประตู ฉันไม่แปลกใจเลยที่เขารีบวิ่งเข้าหาอ้อมกอดของพ่อ
เด็กน้อยคนนั้นทำสิ่งที่เราควรจะทำเมื่อชีวิตมีแต่ความวุ่นวายเกินจะแบกรับไหว เขาหลบออกไปหาพ่อ พระเยซูทรงหาเวลาอธิษฐานกับพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ บางคนอาจบอกว่านี่เป็นเหตุที่ทำให้พระองค์สามารถรับมือกับการงานที่เผาผลาญพลังฝ่ายมนุษย์ของพระองค์ได้ ในพระกิตติคุณมัทธิว พระเยซูกำลังมุ่งหน้าไปยังที่เปลี่ยว แต่ประชาชนพากันติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงเห็นความต้องการของพวกเขา จึงได้ทรงรักษาและเลี้ยงอาหารพวกเขาอย่างอัศจรรย์ แต่หลังจากนั้น “พระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขาโดยลำพังเพื่ออธิษฐาน” (ข้อ 23)
พระเยซูทรงช่วยเหลือประชาชนจำนวนมากครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พระองค์ไม่ทรงยอมให้พระองค์เองหมดเรี่ยวแรงหรือเร่งรีบ พระองค์ทรงรักษาสัมพันธภาพกับพระเจ้าผ่านทางการอธิษฐาน แล้วคุณล่ะ คุณหาเวลาเข้าเฝ้าพระเจ้าตามลำพังเพื่อรับกำลังและการเติมให้เต็มจากพระองค์หรือไม่
sant เมื่อ 31/12/2016 ที่ 1:31 am
#มานา12/30/16 #เฝ้าพระเจ้าตามลำพัง
-ทุกวัน เราใช้ชีวิต ทุ่มเทความคิด เรี่ยวแรงกายใจ
-เร่งรีบ ไม่มีเวลา ไม่ได้เข้าหา องค์พระผู้ไถ่
-แต่พระคริสต์ ทรงเป็นแบบอย่าง ให้เห็นหนทาง เพิ่มพลังใจ
-พระองค์ เสด็จที่เปลี่ยว หาเวลาข้องเกี่ยว พระบิดาไว้
-นั่นคือ การอธิษฐาน นี่คือพื้นฐาน ชีวิตง่ายๆ
-เป็นการ รักษาสัมพันธ์ พระบิดานั้น ทรงพอพระทัย
-ผู้เชื่อ เข้าชิดพระเจ้า เรี่ยวแรงของเรา จะกลับมาใหม่.(st)