ในเดือนธันวาคมของทุกปี ชุมชน 13 ครัวเรือนใกล้ละแวกที่เราอาศัยอยู่ จะประดับไฟคริสตมาสที่สว่างไสวกว่า 300,000 ดวง ผู้คนขับรถมาไกลและเข้าแถวรอหลายชั่วโมง เพื่อชมแสงสีและฟังเสียงดนตรีซึ่งถูกจัดไว้ให้เข้ากับแสงไฟการแสดงถูกจัดเตรียมไว้อย่างประณีตซับซ้อนต้องใช้คอมพิวเตอร์ 64 เครื่องทำงานร่วมกันเพื่อให้ทุกอย่างประสานลงตัว

เมื่อฉันนึกถึงไฟประดับช่วงเทศกาล ฉันก็คิดไปถึงพระองค์ผู้เป็นแสงที่ทำให้คริสตมาสเป็นเทศกาลสำหรับผู้คนมากมาย แสงเดียวที่ส่องสว่างให้ทั่วโลกได้เห็นถึงความจริง ความยุติธรรม และความรัก พระเยซูผู้เป็นแสงนั้นทรงเป็นทุกสิ่งที่โลกนี้ต้องการและแสวงหา (อิสยาห์ 9:2,6-7) และพระองค์ทรงบอกผู้ที่ติดตามพระองค์ให้ทอแสงของพระองค์ เพื่อผู้อื่นจะได้เห็นและสรรเสริญพระเจ้า (มัทธิว 5:16)

ลองจินตนาการว่า หากคริสเตียนพยายามส่องสว่างและประสานแสงแห่งความรักของพระเจ้า เช่นเดียวกับที่ทุกครอบครัวในชุมชนนั้นร่วมมือกันประดับถนนของพวกเขาด้วยไฟคริสตมาสบางทีผู้คนที่ยังอาศัยอยู่ในความมืด อาจพยายามมาชื่นชมแสงอันยิ่งใหญ่นี้ก็เป็นได้ เมื่อคริสเตียนทำงานร่วมกันเพื่อสำแดงความรักของพระเจ้า ข่าวประเสริฐจะสว่างไสวยิ่งขึ้น และดึงดูดผู้คนอีกมากมายมายังพระเยซู ผู้ทรงเป็นแสงสว่างแห่งโลกนี้ – JAL