“ไม่ว่ามนุษย์จะทำสิ่งใด หากไม่มีพระเจ้า เขาก็จะล้มเหลวอย่างน่าสมเพชหรือสำเร็จอย่างน่าสมเพชยิ่งกว่า” ข้อความนี้เขียนอยู่ในหนังสือ“คำเทศนาที่ไม่ได้พูด” (UnspokenSermons) ของจอร์จ แมคโดนัลด์ (1824-1905)นักเขียนนิยาย กวีและผู้รับใช้พระเจ้าชาวสก็อตซึ่งนักพูดและนักเขียนยุคใหม่มักนำคำกล่าวอันน่าตกใจนี้มากล่าวอ้างบ่อยครั้ง

แมคโดนัลด์กล่าวถึงสิ่งที่ทำได้ยากของคริสเตียน ในเรื่องการปฏิเสธความต้องการของตนเอง และการปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูที่ว่า “ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเองและรับกางเขนของตนแบกทุกวัน และตามเรามา เพราะว่าผู้ใดใคร่จะเอาชีวิตรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดจะเสียชีวิตเพราะเห็นแก่เรา ผู้นั้นจะได้ชีวิตรอด” (ลก.9:23-24)

การพยายามสะกดกลั้นความต้องการตามธรรมชาติเท่านั้นไม่เพียงพอ แมคโดนัลด์กล่าวว่า การปฏิเสธความต้องการของตนเองที่แท้จริงหมายถึง “เราจะต้องมองทุกสิ่ง ในแบบที่[พระคริสต์]ทรงทอดพระเนตร สนใจอย่างที่พระองค์ทรงสนพระทัย และให้น้ำพระทัยของพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต… จนกระทั่งเราไม่คิดแล้วว่า ‘ฉันควรจะชอบทำอะไร’ แต่คิดว่า ‘พระองค์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ประสงค์ให้ฉันทำอะไร’”

การเอาแต่ได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการถือเป็นความสำเร็จที่น่าสมเพช ความสำเร็จที่แท้จริงพบได้เมื่อเรา “สละ” ชีวิตของเราเพื่อเห็นแก่พระเยซู และพบความสำเร็จที่สมบูรณ์และมีเสรีในน้ำพระทัยของพระองค์ – DCM