ข้อเสนอสุดพิเศษ
ผมประหลาดใจมากกับข้อเสนอต่างๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาทางอีเมล์ทุกวัน เมื่อเร็วๆนี้ ผมลองรวมจำนวนเงินที่มีการเสนอให้ผมฟรีๆในหนึ่งอาทิตย์ได้ถึง 26 ล้านดอลล่าร์ แต่ข้อเสนอเหล่านั้นเป็นเพียงการหลอกลวง ทุกข้อไม่ว่าจะเป็นรางวัลตั้งแต่ 1 ล้านไปจนถึง 7 ล้านเป็นเพียงคำโกหกที่ส่งมาจากบรรดาคนต้มตุ๋นที่มุ่งหวังจะหลอกเอาเงินจากผมเท่านั้น
เราทุกคนอยู่ในสภาพที่จะถูกหลอกลวงได้ตลอดเวลาด้วยข้อเสนอสุดพิเศษซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้ให้อะไรเลยนอกจากปัญหา
แต่มีข้อเสนอหนึ่งที่แท้จริงและวิเศษเหลือเชื่อนั่นคือข้อเสนอที่พระเจ้าให้แก่เรา คือความรอดผ่านทางความเชื่อในพระราชกิจที่พระเยซูคริสต์ทรงกระทำการสำเร็จบนไม้กางเขน“จงเชื่อและวางใจในพระเยซูเจ้าและท่านจะรอด”(กจ.16:31) เป็นข้อเสนอที่พระองค์ต้องเสียสละอย่างมากเพื่อที่เราจะได้รับผลประโยชน์ พระธรรมโรมบอกเราว่า“พระเยซูผู้ทรงถูกอายัดไว้ให้ถึงสิ้นพระชนม์แล้วเพราะการล่วงละเมิดของเราและได้ทรงฟื้นจากความตายเพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม”(รม.4:25)
เมื่อเราตอบรับความรอดเราก็มีความหวัง(ทต.1:2)สันติสุข(รม.5:1)การอภัยโทษบาป(อฟ.1:7)พระคุณของพระองค์อันอุดมเหลือล้น(อฟ.2:7)และการทรงไถ่ให้รอด(อฟ.4:30) นี่เป็นข้อเสนอแท้จริง รับประกันด้วยการสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซู - JDB
เอาชนะข่าวร้าย
มีหลายคนบอกว่า “ใครจะให้เราได้เห็นสิ่งดีๆ บ้าง” (สดด.4:6) จากคำพูดนี้ดูเหมือนดาวิดกำลังอธิบายทัศนคติการมองโลกในแง่ร้ายที่มักเกิดขึ้นกับเราในโลกปัจจุบัน ข่าวหน้าหนึ่งและเรื่องราวที่ติดอันดับในอินเตอร์เน็ตหรือโทรทัศน์มักเน้นเรื่องอาชญากรรม อุบัติเหตุการเมือง เศรษฐกิจ และบุคคลสำคัญที่มีพฤติกรรมอันไม่เหมาะสม คำสนทนาของเราในที่ทำงานและที่บ้านมีแต่เรื่องปัญหาต่างๆ ที่ฟังแล้วท้อแท้ แล้วเราจะได้ยินเรื่องดีๆได้จากที่ไหน
ท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้น ดาวิดหันหาพระเจ้าผู้ทรงบรรเทาความทุกข์โศกของท่าน(สดด.4:1) และทรงฟังคำอธิษฐานของท่าน (สดด.4:3)แทนที่ดาวิดจะตั้งความหวังไว้กับสิ่งดีชั่วคราวซึ่งมาจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ท่านพบการหนุนใจที่ไม่สิ้นสุดในพระเจ้า“ข้าแต่พระเจ้าขอทรงเงยพระพักตร์ที่สว่างของพระองค์มาเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย”(สดด.4:6)ผลที่ได้คือความสุขใจที่เกินความมั่งคั่งหรือความสำเร็จในโลกนี้ (สดด.4:7)
ตลอดทั้งชีวิตของดาวิด ทั้งก่อนและหลังการเป็นกษัตรย์ของอิสราเอลท่านมีศัตรูอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อสิ้นวัน ท่านสามารถพูดได้ว่า“ข้าพระองค์จะเอนกายลงนอนหลับในความสันติข้าแต่พระเจ้าเพราะพระองค์เท่านั้นที่ทรงกระทำให้ข้าพระองค์อาศัยอยู่อย่างปลอดภัย”(สดด.4:8)
การใคร่ครวญความจริงในสดุดี 4 เกี่ยวกับความห่วงใยที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา ถือเป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นและจบวันแต่ละวันของเรา - DCM
เวลาแห่งความกลัว
ตอนที่ลูกคนแรกของเราเกิด มาร์ลีนภรรยาของผมเจ็บท้องคลอดนานถึง 30 ชั่วโมง ทำให้ทั้งแม่และลูกอยู่ในภาวะที่เครียดมาก หมอที่มาแทนหมอประจำก็ไม่คุ้นเคยกับภรรยาผมและไม่ได้ดูแลครรภ์มาตั้งแต่แรกสุดท้ายหมอรอนานเกินไปกว่าจะตัดสินใจผ่าคลอด ส่งผลให้ลูกชายของผมต้องเข้าห้องไอซียูสำหรับเด็กแรกเกิด คณะแพทย์ไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยลูกของเราให้พ้นจากภาวะบอบช้ำรุนแรงได้เลย
โดยพระคุณของพระเจ้า แมทมีอาการดีขึ้นแต่ผมนึกไม่ออกเลยว่าเคยมีช่วงใดในชีวิตที่ทำให้ผมกลัวเท่ากับตอนที่ผมยืนอยู่ข้างเตียงของลูกในห้องไอซียู อย่างไรก็ตามผมรู้ดีว่าพระเจ้าทรงอยู่ใกล้ขณะที่ผมทูลอธิษฐานต่อพระองค์
ในช่วงเวลาที่น่ากลัวในชีวิต (รวมทั้งช่วงเวลาอื่นด้วย) ไม่มีสิ่งใดที่จะช่วยปลอบประโลมใจที่เจ็บปวดได้เท่ากับความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงอยู่ด้วยกับเราและทรงห่วงใย ดาวิดเขียนไว้ในสดุดีว่า“แม้ข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราชข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆเพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์”(สดด.23:4)
เมื่อจิตใจเต็มด้วยความกลัว พระเจ้าทรงอยู่เคียงข้าง และจะนำเราผ่านพ้นการทดลองอันยากลำบากนั้นไปได้ - BC
เสียงเรียก
ฉันและเพื่อนร่วมงานอีกสองสามคน เพิ่งเดินผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัยของสนามบิน และกำลังเดินไปยังประตูขึ้นเครื่อง ฉันได้ยินเสียงประกาศว่า “โปรดทราบ คุณแอน ซีตาส กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่” ชื่อนี้ไม่ค่อยซ้ำกับใคร เราจึงคิดว่าน่าจะหมายถึงฉัน ฉันเองก็คิดว่าตัวเองคงจะลืมอะไรไว้ที่จุดตรวจ ฉันถามเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ที่บอกให้ฉันไปที่โทรศัพท์สีแดง แล้วยกหูบอกชื่อและถามว่าทำไมจึงตามตัวฉัน ฉันมองหาโทรศัพท์และยกหูขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ที่รับสายบอกว่า “ไม่นี่ครับ เราไม่ได้เรียกคุณ” ฉันบอกว่า “แต่ฉันได้ยินชื่อฉันแน่ๆ” เจ้าหน้าที่ตอบมาเป็นครั้งที่สองว่า “ไม่ครับ เราไม่ได้เรียกคุณ” ฉันเลยไม่รู้ว่าทำไมจึงมีคนเรียกชื่อฉันในวันนั้น
เด็กชายซามูเอล ถูก “เรียก” เมื่อนานมาแล้ว (1ซมอ.3:4) พระคัมภีร์บอกว่าเขา “ไม่เคยรู้จักพระเจ้าและยังไม่เคยทรงสำแดงพระดำรัสของพระเจ้าแก่เขา” (1ซมอ.3:7) ดังนั้นปุโรหิตเอลีจึงช่วยให้เขาเข้าใจว่าใครกำลังเรียกเขาอยู่ (1ซมอ.3:8-9) พระเจ้าทรงเปิดเผยแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของซามูเอล
พระเจ้าทรงมีแผนการณ์สำหรับเราเช่นกัน และพระองค์ตรัสเรียกเราที่ในใจว่า “บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเราและเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข” (มธ.11:28) นั่นเป็นเสียงเรียกเพื่อให้เรารับของประทานคือความรอด การพักผ่อน และสันติสุขจากพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอดกำลังเรียกเราให้มาหาพระองค์ - AMC
ดีที่สุดทุกฤดู
ชีวิตก็คล้ายกับสภาพอากาศ คือมีฤดูกาลซึ่งผลักให้เราก้าวสู่ฤดูกาลต่อไปไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ และเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ เรามักจะเกิดความไม่แน่ใจและบางครั้งก็กังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายของชีวิต เมื่อเราเป็นกังวลว่า ฉันจะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวหรือเปล่า? สุขภาพร่างกายฉันจะรับไหวหรือไม่? ฉันจะมีเงินพอใช้หรือไม่? ความคิดฉันจะยังแล่นดีอยู่หรือเปล่า? ในทุกช่วงของชีวิต เราต้องเลือกว่าจะเสียเวลานั้นไปกับความวิตกกังวล หรือจะ “ฉวยโอกาสเพราะว่าทุกวันนี้เป็นกาลที่ชั่ว” (อฟ.5:16) อย่างที่เปาโลบอกไว้
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฤดูกาลใด คุณวางใจในความสัตย์ซื่อของพระเจ้าได้ พระองค์ตรัสว่า “เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย’ดังนั้นเราจึงกล่าวได้อย่างมั่นใจว่า“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะไม่กลัว” (ฮบ.13:5-6)
เพราะพระเจ้าทรงสถิตอยู่ด้วยและทรงจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ให้คุณ คุณจึงสามารถใช้เวลาให้เป็นประโยชน์สูงสุดได้ในทุกฤดูกาล ด้วยการติดตามพระองค์อย่างใกล้ชิด ใช้เวลาในการศึกษาพระคำของพระองค์และอธิษฐาน มีความรักและให้อภัยแก่ผู้อื่นง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน และรับใช้ผู้อื่นด้วยความยินดีและใจกว้างขวาง
พระเจ้าทรงอวยพรเราด้วยฤดูกาลปัจจุบัน จงใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด! - JS
ยากที่จะรัก
หลายปีก่อน ผมเป็นที่ปรึกษาของค่ายสำหรับเด็กผู้ชายที่เกเร การรับมือกับพฤติกรรมของพวกเขาเป็นเรื่องยากมาก พวกเขามักจะแกล้งสัตว์เมื่อไปเยี่ยมชมฟาร์ม และมีเรื่องชกต่อยกันบ่อยๆ ผมจึงใช้วิธีที่สงบและเด็ดขาดในการนำพวกเขา และถึงแม้พวกเขามักจะทำให้ผมโมโห แต่ผมก็ยังดูแลด้านกายภาพของพวกเขาอย่างครบถ้วนเสมอ
แม้ว่าภายนอกผมจะดูใจดีและรักพวกเขาแต่บ่อยครั้งความรู้สึกภายในบอกว่าผมเพียงแค่ “อดทนกับพวกเขา” เท่านั้น ทำให้ผมต้องใคร่ครวญว่าพระบิดาในสวรรค์ผู้ทรงเปี่ยมไปด้วยความรักได้ทรงดูแลลูกๆ ที่ไม่เชื่อฟังของพระองค์อย่างไร ระหว่างที่เปาโลเล่าเรื่องชาวอิสราเอลในช่วงอพยพท่านกล่าวว่า “พระองค์ได้ทรงอดทนต่อความประพฤติของเขาในถิ่นทุรกันดารประมาณสี่สิบปี” (กจ.13:18) ในภาษากรีก คำว่า “อดทน” มักจะหมายถึงการอดทนจัดหาสิ่งจำเป็นให้กับผู้อื่นแม้คนนั้นไม่รู้คุณก็ตาม
คนบางคนอาจไม่ตอบแทนความห่วงใยของเรา ถ้าเป็นเช่นนี้ การระลึกได้ว่าพระเจ้าก็ทรงอดทนกับเรา อาจช่วยได้ นอกจากนี้ พระเจ้ายังทรงประทานพระวิญญาณของพระองค์มาช่วยเราให้ใช้ความรักตอบแทนคนเหล่านั้นที่ไม่น่ารัก หรือคนเหล่านั้นที่ไม่รู้คุณ (กท.5:22-23)
ข้าแต่พระเจ้า โปรดประทานความอดทนของพระองค์ ต่อใครก็ตามในชีวิตซึ่งยากที่เราจะรัก - HDF
มานาสำหรับรายการวิทยุ/วิทยุชุมชน
มานาประจำวันในรูปแบบเสียง เป็นสื่อเสียงที่อ่านเนื้อหาของมานาประจำวันในแต่ละวัน พร้อมทั้งข้อพระคัมภีร์ประจำวันนั้น ความยาวประมาณ 7-10 นาที เหมาะสำหรับเป็นเนื้อหาของรายการวิทยุ หรือสถานีวิทยุชุมชน
สำหรับสถานีวิทยุที่สนใจ และติดต่อเข้ามา พันธกิจมานาประจำวันจะจัดส่งซีดีมานาฯ เสียงให้ล่วงหน้าทุกเดือน หรือหากทางสถานีวิทยุสะดวกที่จะ download พันธกิจฯ สามารถจัดเตรียม user name และ password สำหรับการ download ให้ได้ โดยผู้ download จะได้ download ล่วงหน้าเช่นกัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สถานีวิทยุคริสเตียนที่สนใจนำมานาฯ เสียง ไปใช้ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว สามารถติดต่อเข้ามาที่ โทร. 02-718-5166-7 หรือ ส่งอีเมล์ถึง thailand@odb.org โดยใช้ Subject ว่า มานาฯ เสียง
มานาประจำวัน ไม่ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินใดๆ จากต่างประเทศ แต่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนสมาชิกมานาฯ ผู้มีภาระใจ
คุณเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้
สมัครเข้าร่วมโครงการคนรักพระคำ (Loving God’s Word)
[contact-form-7 id="131127" title="Loving God Word"]
กลับไปที่หน้าคนรักพระคำ