มานาประจำวัน

พระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า

ราเล่ย์ เพื่อนของผมกำลังพุ่งทะยานเข้าสู่วันครบรอบวันเกิดปีที่แปดสิบห้า! เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผมตั้งแต่เราได้คุยกันครั้งแรกเมื่อกว่าสามสิบห้าปีก่อน เมื่อเร็วๆนี้เขาเล่าว่าตั้งแต่เกษียณ เขาเขียนต้นฉบับหนังสือเสร็จหนึ่งเล่ม และเริ่มต้นงานพันธกิจอื่นอีก ผมรู้สึกทึ่งแต่ไม่แปลกใจ

ในพระคัมภีร์ คาเลบในวัยแปดสิบห้าก็ยังไม่พร้อมที่จะหยุดเช่นกัน ความเชื่อและการอุทิศตนต่อพระเจ้าค้ำจุนท่านตลอดหลายสิบปีของการใช้ชีวิตในถิ่นทุรกันดาร และในการสู้รบเพื่อรักษามรดกที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับอิสราเอล ท่านกล่าวว่า “ข้าพเจ้ายังมีกำลังแข็งแรง เช่นเดียวกับวันที่โมเสสใช้ให้ข้าพเจ้าไป กำลังของข้าพเจ้าในการทำศึกสงคราม หรือออกไปและเข้ามาเดี๋ยวนี้ก็เป็นเหมือนครั้งนั้น” (ยชว.14:11) ท่านจะเอาชนะด้วยวิธีใด คาเลบประกาศว่า “พระเจ้าจะทรงสถิตกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะขับไล่เขาออกไปได้ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้แล้ว” (ข้อ 12)

พระเจ้าจะทรงช่วยเหลือทุกคนที่ไว้วางใจในพระองค์อย่างสุดใจโดยไม่เกี่ยงเรื่องอายุ สถานะในชีวิต หรือสถานการณ์ เราเห็นพระเจ้าได้ในองค์พระเยซู พระผู้ช่วยให้รอดของเรา หนังสือพระกิตติคุณทำให้เราเกิดความเชื่อในพระเจ้าผ่านสิ่งที่เรามองเห็นในพระคริสต์ พระเยซูทรงสำแดงความห่วงใยและพระเมตตาของพระเจ้าต่อทุกคนที่ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ดังที่ผู้เขียนฮีบรูยอมรับว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเป็นพระผู้ช่วยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่กลัว” (ฮบ.13:6) ไม่ว่าเราจะเป็นเด็กหรือคนชรา คนอ่อนแอหรือแข็งแรง ถูกพันธนาการหรือเป็นอิสระ กระฉับกระเฉงหรือเดินกะเผลก แล้วจะมีอะไรที่ขัดขวางไม่ให้เราขอความช่วยเหลือจากพระองค์ในวันนี้ได้

เอกภาพบนความหลากหลายในพระคริสต์

ในบทความเรื่อง “การรับใช้และออทิสติก” ของศาสตราจารย์ดาเนียล โบว์แมน จูเนียร์ ได้บรรยายถึงความยากลำบากในการตัดสินใจเกี่ยวกับการรับใช้ในคริสตจักรของเขาในฐานะคนที่มีภาวะออทิสติก เขาอธิบายว่า “ในการก้าวไปข้างหน้าในแต่ละวัน คนที่มีอาการออทิสติกต้องสร้างทางเดินใหม่ทุกครั้ง เป็นเส้นทางที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งต้องคำนึงถึง...พลังงานทางจิตใจ อารมณ์ และร่างกาย...ช่วงเวลาที่อยู่คนเดียวเพื่อจะพัก การรับรู้ทางประสาทสัมผัสและระดับความสบาย...ช่วงเวลาของวันนั้นว่าเราได้รับการชื่นชมในจุดเด่นของเรา และได้รับการอำนวยความสะดวกในสิ่งที่จำเป็นหรือไม่ หรือเราถูกแบ่งแยกอันเนื่องมาจากทั้งภาวะการรับรู้ที่บกพร่องของเราและเรื่องอื่นๆอีกมากมาย” โบว์แมนเขียนถึงการตัดสินใจเหล่านี้ว่า สำหรับคนส่วนใหญ่ “ในขณะที่การปรับเวลาและพลังงานของคนอื่นอาจไม่ส่งผลร้ายแรงต่อพวกเขา แต่การตัดสินใจแบบเดียวกันนั้นอาจทำให้ผมแย่ได้”

โบว์แมนเชื่อว่าภาพของการผูกพันซึ่งกันและกันที่เปาโลอธิบายไว้ใน 1 โครินธ์ 12 อาจเป็นวิธีแก้ปัญหา ในข้อ 4-6 เปาโลบรรยายว่าพระเจ้ามอบของประทานให้กับประชากรแต่ละคนของพระองค์เป็นพิเศษเพื่อ “ประโยชน์ร่วมกัน” (ข้อ 7) แต่ละคนเป็นอวัยวะที่ “ขาดเสียไม่ได้” ในพระกายของพระคริสต์ (ข้อ 22) เมื่อคริสตจักรเข้าใจธรรมชาติและของประทานที่พระเจ้าทรงมอบให้คนแต่ละคนแล้ว แทนที่จะกดดันให้ทุกคนรับใช้ในลักษณะเดียวกัน พวกเขาสามารถสนับสนุนสมาชิกของตนให้รับใช้ในรูปแบบที่เหมาะสมกับของประทานของพวกเขา

โดยวิธีนี้ แต่ละคนจะจำเริญขึ้นและพบความสมบูรณ์ และรู้สึกมั่นคงในบทบาทที่มีคุณค่าของตนในพระกายของพระคริสต์ (ข้อ 26)

พระเยซู ผู้สร้างสันติที่แท้จริง

ในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1862 สงครามกลางเมืองในสหรัฐฯลุกลามอย่างรวดเร็ว กองกำลังฝ่ายสหภาพและฝ่ายสมาพันธรัฐตั้งค่ายห่างกัน 640 เมตรอยู่คนละฝั่งของแม่น้ำสโตนส์ในรัฐเทนเนสซี ขณะที่พวกเขาผิงไฟอยู่รอบกองไฟ ทหารฝ่ายสหภาพหยิบไวโอลินและฮาร์โมนิก้าขึ้นมาและเริ่มบรรเลงเพลง “แยงกี้ดูเดิ้ล” ทหารฝ่ายสมาพันธรัฐเล่นตอบกลับมาด้วยเพลง “ดิ๊กซี่” ที่พิเศษคือทั้งสองฝ่ายร่วมกันบรรเลงเพลง“บ้านอันแสนอบอุ่น” อย่างพร้อมเพรียงในตอนท้าย ศัตรูคู่อาฆาตบรรเลงดนตรีร่วมกันในค่ำคืนอันมืดมิด เป็นภาพเพียงชั่วขณะของสันติภาพที่เกินจินตนาการ แต่การพักรบด้วยดนตรีไพเราะนั้นสั้นนัก เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาวางไวโอลินลงและหยิบปืนไรเฟิลขึ้นมา มีทหารเสียชีวิต 24,645 นาย

ความพยายามของมนุษย์ในการสร้างสันติภาพลดน้อยลงอย่างเลี่ยงไม่พ้น ความเป็นปรปักษ์ยุติในที่แห่งหนึ่งเพื่อไปปะทุขึ้นในที่อีกแห่งหนึ่ง ความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งซึ่งได้รับการแก้ไขแล้วก็ไม่พ้นต้องพบกับความเสียใจอีกในเวลาต่อมา พระคัมภีร์บอกเราว่าพระเจ้าคือผู้สร้างสันติภาพเพียงผู้เดียวที่เราไว้ใจได้ พระเยซูตรัสอย่างชัดเจนว่า “ท่านจะได้มีสันติสุขในเรา” (ยน.16:33) เรามีสันติสุขได้ในพระเยซู ในขณะที่เราร่วมในภารกิจการสร้างสันติภาพของพระองค์ แต่สันติภาพที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้โดย การคืนดีและการบังเกิดใหม่ในพระเจ้าเท่านั้น

พระคริสต์บอกว่าเราไม่สามารถหลีกหนีความขัดแย้งได้ พระองค์ตรัสว่า “ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก” ความขัดแย้งมีอยู่มากมาย พระองค์ยังตรัสอีกว่า “แต่จงชื่นใจเถิด เพราะว่าเราได้ชนะโลกแล้ว” (ข้อ 33) ในขณะที่ความพยายามของเรามักจะไร้ผล พระเจ้าผู้ทรงรักเรา (ข้อ 27) ได้ทรงสร้างสันติภาพในโลกที่วุ่นวายนี้

สื่อแนะนำ

สอนข้าพระองค์อธิษฐาน

สั่งซื้อ

อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำในการอธิษฐาน? หนังสือเล่มนี้จะช่วยคุณอธิษฐานตามน้ำพระทัยพระเจ้า

แบบแผนคำอธิษฐานของพระเยซู

สั่งซื้อ

ย้ายความจดจ่อที่ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ในพระหัตถ์ของพระเจ้า มาที่การพูดคุยและสามัคคีธรรมกับพระเจ้าแห่งจักรวาล

เปลี่ยนตามพระฉายพระองค์

สั่งซื้อ

ช่วยคุณค้นหา และชื่นชมกับขุมทรัพย์ล้ำค่าที่พระเจ้าทรงมอบไว้ในตัวคุณ

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป นั่นเป็นการแสดงว่าท่านยอมรับ นโยบายการใช้คุกกี้ของเรา