ในหลายวัฒนธรรมการร้องไห้เสียงดัง การคร่ำครวญและฉีกเสื้อผ้าเป็นวิธีแสดงความโศกเศร้าต่อความทุกข์ยากของตนเองหรือหายนะของคนในชาติ สำหรับคนยิวในสมัยพันธสัญญาเดิม การแสดงออกทำนองเดียวกันนี้แสดงถึงการเสียใจอย่างลึกซึ้งและการสำนึกผิดที่หลงหายไปจากพระเจ้า
การแสดงออกภายนอกว่าสำนึกผิดจะเป็นกระบวนการที่มีพลังหากทำจากใจ แต่ถ้าไม่มีการตอบสนองจากใจจริงต่อพระเจ้า เราก็เพียงแต่ทำท่าทำทางไปเท่านั้น แม้ในชุมชนแห่งความเชื่อ
หลังจากฝูงตั๊กแตนทำลายแผ่นดินยูดาห์ พระเจ้าทรงเรียกให้ประชาชนสำนึกผิดอย่างจริงใจผ่านผู้เผยพระวจนะโยเอล เพื่อจะพ้นจากการพิพากษาที่จะตามมา “เจ้าทั้งหลายจงกลับมาหาเราเสียเดี๋ยวนี้ ด้วยความเต็มใจ ด้วยการอดอาหาร ด้วยการร้องไห้และด้วยการโอดครวญ” (โยเอล 2:12)
โยเอลจึงเรียกร้องให้พวกเขาตอบสนองจากใจ “จงฉีกใจของเจ้า มิใช่ฉีกเสื้อผ้าของเจ้า จงหันกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย เพราะว่าพระองค์ทรงกอปรด้วยพระคุณและทรงพระกรุณา ทรงกริ้วช้าและบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคงและทรงกลับพระทัยไม่ลงโทษ” (โยเอล 2:13) การกลับใจที่แท้จริงมาจากใจ
พระเจ้าปรารถนาให้เราสารภาพบาปต่อพระองค์และรับการอภัย เพื่อเราจะรักและรับใช้พระองค์ได้ด้วยสิ้นสุดจิต สุดใจ สุดความคิดและสุดกำลัง ไม่ว่าคุณจะบอกอะไรกับพระองค์วันนี้ จงพูดออกมาจากใจ
Admin เมื่อ 18/10/2016 ที่ 1:19 am
เพลงประกอบมานาฯ เสียงวันนี้ “ขอใจ – จ๋า คนึงนิตย์ (พันธกิจกำลังใจกำลังมา)”