เมื่อทอม สามีของฉันถูกนำส่งโรงพยาบาลเพราะต้องผ่าตัดด่วน ฉันเริ่มโทรหาคนในครอบครัว น้องสาวฉันกับสามีรีบมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน และเราอธิษฐานระหว่างรอ ทันทีที่พี่สาวของทอมได้ยินเสียงเป็นกังวลของฉันทางโทรศัพท์ เธอพูดว่า “ซินดี้ พี่ขออธิษฐานกับเธอนะ” เมื่อศิษยาภิบาลและภรรยามาถึง ทั้งสองก็อธิษฐานเผื่อเราเช่นกัน (ยากอบ 5:13-16)

ออสวอลด์ แชมเบอร์สเขียนไว้ว่า “เรามักใช้การอธิษฐานเป็นทางออกสุดท้าย แต่พระเจ้าทรงต้องการให้การอธิษฐานเป็นด่านป้องกันด่านแรก เราอธิษฐานเมื่อเราทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่พระเจ้าทรงต้องการให้เราอธิษฐานก่อนที่เราจะลงมือทำสิ่งอื่นใด”

โดยพื้นฐานแล้ว การอธิษฐานก็คือการสนทนากับพระเจ้า การพูดคุยด้วยความคาดหวังว่าพระเจ้าทรงฟังและทรงตอบ การอธิษฐานไม่ควรเป็นทางออกสุดท้าย ในพระวจนะของพระเจ้าพระองค์ทรงหนุนใจให้เราสนทนากับพระองค์ผ่านการอธิษฐาน (ฟิลิปปี 4:6) พระองค์ยังทรงสัญญาอีกด้วยว่า เมื่อ “มีสองสามคนประชุมกันที่ไหน” ในนามของพระองค์พระองค์จะทรง “อยู่ท่ามกลางเขาที่นั่น” (มัทธิว 18:20)

สำหรับผู้ที่เคยมีประสบการณ์กับฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ เรามักร้องทูลต่อพระองค์ก่อนทำสิ่งอื่นใด แอนดรูว์ เมอร์เรย์ ศิษยาภิบาลในศตวรรษที่ 19 เคยกล่าวไว้ว่า “การอธิษฐานเปิดหนทางให้พระเจ้าทรงทำงานในเราและผ่านเรา”