ในปี 1859 ท่ามกลางความระส่ำระสายก่อนเกิดสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกา อับราฮัม ลินคอล์น ได้พูดต่อหน้าสมาพันธ์เกษตรกรในเมืองมิลวอกกี้ รัฐวิสคอนซิน ในครั้งนั้นท่านเล่าเรื่องพระราชาสมัยโบราณองค์หนึ่งที่พยายามหาประโยคที่ “เป็นจริงและเหมาะสมกับทุกเวลาทุกโอกาส” บรรดานักปราชญ์ที่ได้รับคำสั่งอันน่าปวดหัวนี้ ได้ถวายคำตอบเป็นประโยคที่ว่า “เรื่องนี้ก็จะผ่านไปเช่นกัน”

แน่นอนว่าคำพูดนี้เป็นจริงสำหรับในโลกปัจจุบัน ด้วยโลกกำลังเสื่อมลงเรื่อยๆ และไม่ใช่เฉพาะโลกเท่านั้น แต่เราเองก็ได้ประสบในชีวิตของเราว่า วันเวลาของเรากำลังหมดลง ยากอบบันทึกไว้ว่า “ชีวิตของท่านเป็นเช่นใดเล่าท่านก็เป็นเช่นหมอกที่ปรากฏอยู่เพียงชั่วครู่แล้วก็หายไป”(ยก.4:14)

แม้ชีวิตของเราจะไม่ถาวรและจะต้องจบสิ้นลง แต่พระเจ้าผู้ที่เรานมัสการและรับใช้ ทรงเป็นนิรันดร์ พระองค์ทรงให้เราเข้าส่วนในนิรันดร์กาลของพระองค์ผ่านทางองค์พระเยซูคริสต์ พระบุตรที่ได้ประทานแก่เรา ทรงสัญญาว่าจะประทานชีวิตที่ไม่มีวันสูญไปให้แก่เรา “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้น จะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์” (ยน. 3:16)

เมื่อพระคริสต์เสด็จกลับมา พระองค์จะพาเรากลับบ้านเพื่ออยู่กับพระองค์ตลอดไป