ฉันนั่งเงียบๆ อยู่ข้างหลุมฝังศพพ่อ รอเวลาสำหรับการทำพิธีฝังศพของแม่ ซึ่งจัดขึ้นเป็นการส่วนตัวเฉพาะคนในครอบครัว ผู้ประกอบพิธีถือโกศที่บรรจุอัฐิของท่าน หัวใจของฉันมึนชา และสมองก็พร่าเลือน ฉันจะรับมือกับการสูญเสียท่านทั้งสองไปในเวลาไม่ถึง 3 เดือนได้ยังไง ในความโศกเศร้า ฉันรู้สึกสูญเสียและเดียวดายระคนสิ้นหวังกับการเผชิญอนาคตโดยปราศจากท่านทั้งสอง

จากนั้น ศิษยาภิบาลได้อ่านเกี่ยวกับหลุมฝังศพอีกแห่งหนึ่ง ขณะนั้นเป็นเวลาเช้าตรู่ในวันแรกของสัปดาห์ พวกผู้หญิงไปที่อุโมงค์ฝังพระศพของพระเยซู นำเครื่องหอมไปเพื่อชโลมพระศพ (มัทธิว 28:1; ลูกา 24:1) ที่นั่น พวกเธอต้องตกใจเมื่อพบว่า อุโมงค์นั้นเปิดอยู่ และว่างเปล่า และมีทูตสวรรค์กล่าวกับพวกเธอว่า “อย่ากลัวเลย” (มัทธิว 28:5) พวกเธอไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวอุโมงค์ที่ว่างเปล่า หรือ ทูตสวรรค์ เพราะท่านนำข่าวดีมาบอก

ฉันรู้สึกมีความหวัง เมื่อได้ยินประโยคถัดไปว่า “พระองค์หาได้ประทับอยู่ที่นี่ไม่ทรงเป็นขึ้นมาแล้วตามซึ่งพระองค์ได้ตรัสไว้นั้น” (มัทธิว 28:6) เพราะว่าพระเยซูได้กลับมีชีวิต ความตายจึงปราชัยแล้ว! พระเยซูทรงย้ำเตือนกับสาวกไม่กี่วันก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ว่า “เพราะเราดำรงอยู่ท่านทั้งหลายก็จะดำรงอยู่ด้วย” (ยอห์น 14:19)

แม้เราจะโศกเศร้าเมื่อต้องสูญเสียคนที่เรารัก เรายังพบความหวังใจผ่านทางการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซู และพระสัญญาของพระองค์ที่ว่า ยังมีชีวิตหลังความตาย