เมื่อเคลลี่ สไตน์เฮาส์ ไปที่จตุรัสฮาร์วาร์ดเพื่อถามนักศึกษาว่า คิดอย่างไรกับพระเยซู มีคนที่เคารพนับถือพระองค์ ให้คำตอบว่า พระเยซูทรงเป็น “คนที่ดูแลมนุษย์” อีกคนบอกว่า “ฟังดูเหมือนพระเยซูทรงเป็นคนดี” แต่บางคนก็ต่อต้านอย่างเปิดเผย ว่า “เขาก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ผมไม่คิดว่าเขาเป็นพระผู้ช่วยให้รอด” และ “ผมไม่ยอมรับความเชื่อใดๆ ที่บอกว่า ‘เราเป็นทางเดียวที่จะไปถึงพระเจ้าได้’” บางคนคิดสงสัยว่าพระเยซูคือใคร แต่บางคนก็ปฏิเสธพระองค์

ในเวลาที่พระเยซูทรงเผชิญหน้ากับความตายเมื่อสองพันปีก่อน คนมากมายเยาะเย้ยความเชื่อที่ว่าพระองค์ทรงเป็นบุคคลพิเศษ “และเขาได้เอาถ้อยคำข้อหาที่ลงโทษพระองค์ไปติดไว้เหนือพระเศียรซึ่งอ่านว่า“ผู้นี้คือเยซูกษัตริย์ของชนชาติยิว” (มัทธิว 27:37) คนที่กล่าวว่า “เจ้าผู้จะทำลายพระวิหารและสร้างขึ้นในสามวันน่ะจงช่วยตัวเองให้รอด” (มัทธิว 27:40) พวกผู้นำศาสนาไม่เชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ถึงขนาดพูดว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้แต่ช่วยตัวเองไม่ได้” (มัทธิว 27:42)

เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์ พระองค์อาจดูเหมือนไร้ซึ่งอำนาจ แต่เมื่อเราอ่านเรื่องนี้จนจบ เราได้เห็นว่าพระองค์ทรงสละพระชนม์อย่างเต็มพระทัยพระองค์ได้พิสูจน์แล้วว่าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าและทรงฤทธิ์อนันต์ด้วยการเสด็จออกมาจากอุโมงค์ จงทำความเข้าใจความสำคัญของการสิ้นพระชนม์ และมองดูฤทธิ์อำนาจของการฟื้นขึ้นจากตาย พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของโลก – JDB